เปิดคำสารภาพ หนุ่มบุกสุวรรณภูมิ เมายาจนหลอน เสียงก้องในหูบอกให้ขึ้นเครื่อง ทั้งที่ตอนแรกจะนั่งรถทัวร์
เปิดคำสารภาพ หนุ่มบุกสุวรรณภูมิ ยอมรับเสพยารวมกันจนเมา เสียงก้องในหูทำพิษ ตอนแรกจะนั่งรถแท็กซี่กลับบ้าน แต่บอกว่ามีสาย ให้ขึ้นเครื่องกลับ จนเกิดเรื่อง!
กรณี นายวัชระ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์แล้วชักปืนข่มขู่เจ้าหน้าที่รปภ.ก่อนขับฝ่าประตูรักษาความปลอดภัย เข้าไปในพื้นที่หวงห้ามสูงสุดในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิพร้อมใช้ขวานไล่ทำร้ายเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งสามารถตามจับตัวได้ เมื่อวันที่ 3 พ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันที่ 5 พ.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ส่วนหน้า ร.ต.อ. ไพศาล วีระกิจพานิช รองสารวัตร สอบสวน เจ้าของคดี นำตัวนายวัชระ ผู้ต้องหา ออกมาสอบปากคำเพิ่มเติมและรวบรวมสำนวนประกอบทางคดี เตรียมนำตัวส่งอัยการฟ้องผลัดแรกในวันนี้ช่วงเช้า
ร.ต.อ. ไพศาล เปิดเผยว่า สำหรับความเสียหายเบื้องต้นที่ทางสนามบินสุวรรณภูมิประเมินไว้รวมแล้วประมาณ 1 แสนบาท เป็นประตูกระจกนิรภัยทางเข้าเชื่อมต่ออาคารผู้โดยสารที่ผู้ต้องหาใช้ขวานทุบจนแตกเสียหายสองบาน เบื้องต้นแจ้ง 7 ข้อหาความผิดต่อ นายวัชระ นอกจากนั้นวันนี้พนักงานสอบสวนยังสั่งปรับเพิ่มอีก 2 ข้อหา คือ ขับรถไม่มีใบอนุญาตขับขี่ และใช้รถที่มิได้ทำ พ.ร.บ. มาใช้งานโดยวันนี้เวลาประมาณ 10.00 น. พนักงานสอบสวน จะคุมตัวส่งฝากขังศาลผลัดแรก
ด้าน นายวัชระ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ระบุว่า เมื่อคืนนอนหลับสบายดี เพราะพยายามทานยาแก้ปวดเพื่อให้นอนหลับเพราะไม่อยากคิดอะไรอีก ยอมรับผิดทุกอย่างที่เกิดขึ้น หากย้อนกลับไปได้คงไม่ทำแบบนี้อีก ที่ผ่านมาหลังจากต้องโทษในเรือนจำในคดีที่เพื่อนยัดยาเสพติดให้จนต้องติดคุกถึง 9 ปี จนพ้นโทษเมื่อต้นปี 2564
พอออกมาก็เลิกเสพและหาสมัครงานจนกระทั่งได้ทำงานก็ไม่ได้เสพยามานาน พอมาคืนวันก่อนเกิดเหตุเพื่อนมาหาที่ห้องพักเพื่อชวนกันดื่มสุรา จนกระทั่งเมาตนเองหันไปเห็นยาบ้าที่เพื่อนซื้อมาพร้อมกับยากล่อมประสาทและยาอื่นที่เรียกว่า B 5. ด้วยความอยากลองจึงเสพยาบ้าไปทั้งหมด 8 เม็ด และยากล่อมประสาทที่เป็นสูตรยาเสพติดของวัยรุ่นที่เรียกกันว่าสี่คุณร้อย
พอเสพทุกอย่างรวมกันได้สักพัก จึงเมายาหลับไปไม่นานก็ได้ยินเสียงก้องในหูว่าให้ไปอย่างเดียว บวกกับตนเองมีความคิดอยากกลับบ้าน จึงออกจากห้องพักขี่รถจักรยานยนต์ออกมาตามถนนบางนาตราดจนไปวนแถวบางนาและวนไปมาถึงสามรอบจนน้ำมันหมด จึงขอเบิกเงินกับทางเถ้าแก่เพื่อเติมน้ำมัน หวังจะขับไปตามทางเรื่อยๆ
แต่ในหูก็ยังมีเสียงก้องมีคนบอกตลอดเวลาให้ไปๆ ตอนแรกตนเองตั้งใจจะไปหาขึ้นรถแท็กซี่เพื่อไปลงหมอชิตแล้วนั่งรถทัวร์กลับบ้าน แต่คนในหูบอกว่ามึงอย่านั่งแท็กซี่ เพราะสายเขาทั้งนั้นเดี๋ยวจะถูกจับ ให้ตนไปขึ้นเครื่องบินอย่างเดียวเพื่อกลับบ้าน ตนจึงเลี้ยวเข้ามาในสนามบินเพื่อจะหาทางขึ้นเครื่องบินกลับบ้านต่างจังหวัด พอเลี้ยวเข้ามาในสนามบินเห็นว่ามีเครื่องบินจอดเยอะเลยเลี้ยวรถเข้ามาประตูดังกล่าวเพื่อหวังขึ้นเครื่องบินจนเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าวตนเองรู้สึกพลาดที่หันไปทดลองยาเสพติดจนทำให้หมดอนาคต ที่ผ่านมาทำงานได้ค่าแรงรวมโอทีก็เกือบเดือนละสองหมื่นบาท เงินเดือนออกมาก็จะให้แม่จนเกือบหมด
ก่อนหน้านี้น้องสาวไปกู้ยืมเงินนอกระบบมาจนแม่เครียด ตนก็เก็บเงินเดือนไปจ่ายคืนให้จนหมด ยอมรับผิดกับเรื่องราวที่พลาดไป และอยากฝากเตือนนักเสพยาเสพติดให้เลิกเสพก่อนจะสาย รวมถึงเยาวชนที่คิดจะลองยาเสพติด โดยเฉพาะยาที่ใช้ยากล่อมประสาทเป็นส่วนผสมขอให้ดูตัวอย่างที่เกิดขึ้นจากฤทธิ์ยาของตนเองจนดับอนาคต