กรมอุตุฯเตือนฉบับ 8 พรุ่งนี้ 36 จว.เจอพายุฤดูร้อน ฝนตกหนัก กรุงเทพฯและปริมณฑลไม่รอด
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 17 เมษายน กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 8 (76/2565) มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 17-18 เมษายน 2565 ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูง หรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางได้แผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อนถึงร้อนจัด
ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 17-18 เมษายน 2565 โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และมีลูกเห็บตกบางแห่ง รวมทั้งจะมีฝนตกหนักและฟ้าผ่าเกิดได้ ซึ่งจะมีผลกระทบในภาคตะวันออกเฉียงเหนือก่อน ส่วนภาคเหนือ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ตอนบน จะมีผลกระทบในระยะถัดไป
จึงขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากภัยดังกล่าว โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ ใกล้สิ่งปลูกสร้างและป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง และขอให้เพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนองซึ่งอาจเกิดอันตรายจากลมกระโชกแรงและฟ้าผ่าได้ สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
วันที่ 17 เม.ย.65
ภาคเหนือ : จังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม ร้อยเอ็ด อำนาจเจริญ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก : จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
วันที่ 18 เม.ย.65
ภาคเหนือ : จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดเลย ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และสุรินทร์
ภาคกลาง : จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี พระนครศรีอยุธยา สมุทรสงคราม สมุทรสาคร กาญจนบุรี นครปฐม ราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก : จังหวัดสระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ : จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง