ทูตสหรัฐฯ ประจำไทยทวิตลาออกก่อนไบเดนรับตำแหน่ง
“ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย และภาคภูมิใจที่สุดในสิ่งทั้งปวงที่เราได้ทำเพื่อกระชับพันธไมตรีระหว่างสหรัฐฯและไทย”
ดีซอมบรี ได้รับการเสนอชื่อจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ปี 2019 ให้เป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำราชอาณาจักรไทย ก่อนได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 8 มกราคม ปีที่แล้ว
อย่างไรก็ดี วันนี้ถือเป็นวันพ้นตำแหน่งของ ปธน.ทรัมป์ ซึ่ง ดีซอมบรี ระบุในทวิตเตอร์ว่า “หลังจากนี้ ผมจะออกจากระบบบัญชีผู้ใช้ทวิตเตอร์นี้โดยถาวรเพื่อให้ จนท. สถานทูตสหรัฐฯ ได้เข้ามาดูแลต่อไป”
เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ นั้นมีทั้งนักการทูตมืออาชีพภายใต้สังกัดกระทรวงต่างประเทศ และผู้ที่ได้รับการแต่งตั้งจากฝ่ายการเมือง
หนังสือพิมพ์เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ รายงานว่า เมื่อครั้งที่โดนัลด์ ทรัมป์ เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในปี 2017 เขามีคำสั่งให้บรรดาเอกอัครราชทูตที่มาจากการแต่งตั้งทางการเมืองในสมัยของนายบารัก โอบามาลาออกจากตำแหน่งก่อนที่เขาจะเข้าพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดี โดยคำสั่งของนายทรัมป์เมื่อสี่ปีก่อนนั้น ไม่มีผลกับบรรดานักการทูตมืออาชีพแต่อย่างใด
ทั้งนี้ เป็นเรื่องปกติที่ทูตสหรัฐฯ ที่ได้รับแต่งตั้งจากฝ่ายการเมืองจะลาออกจากตำแหน่งเมื่อรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาทำงาน สำหรับในครั้งนี้ ข้อความในทวิตเตอร์ของดีซอมบรี จึงหมายความว่าเขาได้ลาออกจากตำแหน่ง เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลไบเดนแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยคนใหม่
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ทีมงานผ่องถ่ายอำนาจของนายไบเดนไม่ได้ส่งจดหมายร้องขอให้อยู่ในดำแหน่งต่อให้กับนักการทูตที่แต่งตั้งโดยนายทรัมป์จำนวนมาก แต่มีการร้องขอให้เอกอัครราชทูตบางคนเท่านั้นให้อยู่ต่อ เพราะเป็นประเทศที่สำคัญ เช่น จอห์น ซัลลิแวน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำรัสเซีย เพราะสถานการณ์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียยังคงตึงเครียด เกินกว่าที่จะปล่อยให้ตำแหน่งดังกล่าวว่างลงในช่วงเวลานี้
สำหรับดีซอมบรี เคยเป็นหนึ่งในผู้บริหารสำนักงานกฎหมายระดับโลก Sullivan and Cromwell ตั้งแต่ปี 2004 จนถึง 2019 โดยดำเนินงานด้านการควบรวมและเข้าซื้อกิจการในทวีปเอเชีย เอกอัครราชทูตดีซอมบรีมีประสบการณ์กว่ายี่สิบปีทางด้านการดำเนินการทางกฎหมายและการเจรจาต่อรองให้แก่ลูกความสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ ในโครงการการลงทุนและการพัฒนาทางเศรษฐกิจขนาดใหญ่ในเอเชีย