กรมชลประทานเร่งสูบน้ำช่วยภัยแล้ง สุราษฏ์ธานี สตูล และนครศรีธรรมราช
เมื่อวันที่ 31 มีนาคม นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทาน มอบหมายให้นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม ผู้อำนวยการสำนักเครื่องจักรกล ส่งเจ้าหน้าที่และเครื่องสูบน้ำของ ฝ่ายปฏิบัติการเครื่องจักรกลสูบน้ำที่ 4 (จังหวัดสงขลา) ส่วนเครื่องจักรกลสูบน้ำ สำนักเครื่องจักรกล ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 12 นิ้ว(0.3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) จำนวน 1 เครื่องบริเวณคลองพุมดวงบ้านตาขุนหมู่5 ตำบลเขาวง อำเภอตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขตพื้นที่โครงการชลประทานสุราษฎร์ธานี สำนักงานชลประทานที่ 15 โดยสูบน้ำจากคลองพุมดวงส่งไปยังคลองซอย สามารถสูบน้ำได้วันละ 23,700 ลูกบาศก์เมตร เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภัยแล้งทางการเกษตรนาข้าว พืชสวนพืชไร่พื้นที่รับประโยชน์ 3,000 ไร่ และดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 12 นิ้ว(0.3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) จำนวน 1 เครื่องบริเวณคลองมาจังตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เขตพื้นที่โครงการชลประทานสตูลสำนักงานชลประทานที่ 16โดยสูบน้ำจากคลองมาจังส่งไปยังคลองซอยสามารถสูบน้ำได้วันละ 23,700 ลูกบาศก์เมตร เพื่อช่วยเหลือบรรเทาภัยแล้งทางการเกษตรนาข้าว พืชสวนพืชไร่พื้นที่รับประโยชน์ 1,000 ไร่ และดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 8 และ12 นิ้ว (0.15 และ 0.3 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) จำนวน 4 เครื่อง บริเวณคลองแดนหมู่ 3 และ 7 ตำบลชะเมา (ติดตั้งเครื่อง 12 นิ้ว จำนวน3 เครื่อง) อำเภอปากพนัง และ หมู่ 3 ตำบลท้ายสำเภา (ติดตั้งเครื่อง 8 นิ้ว จำนวน 1 เครื่อง) อำเภอพระพรหม จังหวัดนครศรีธรรมราช เขตพื้นที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาปากพนังบน สำนักงานชลประทานที่ 15 โดยสูบน้ำจากคลองแดนเพื่อส่งไปยังคลองซอยจุดต่างๆ สามารถสูบน้ำได้วันละ 81,000 ลูกบาศก์เมตรเพื่อช่วยเหลือบรรเทาภัยแล้งทางการเกษตรนาข้าว พืชสวนพืชไร่พื้นที่รับประโยชน์ 3,500 ไร่
นายประพิศ กล่าวว่า กรมชลประทานได้เข้าไปดำเนินการให้ความช่วยเหลือ ด้านภัยแล้งในหลายพื้นที่ ได้เตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ รถเครน รวมถึงรถบรรทุกน้ำไว้เตรียมพร้อมสำหรับให้การช่วยเหลือประชาชนทุกพื้นที่ ซึ่งผู้ที่เดือดร้อนลัประสบภัยแล้ง สามารถโทรไปแจ้งได้ที่สายด่วนกรมชลประทาน 1460 ได้ตลอดเวลา