หุ้นสหรัฐ เริ่มพักฐานหลัง S&P500 แตะจุดสูงสุดของปี พร้อมจับตา 3 ธีมลงทุน Supercycle ปี 2569

#ทันหุ้น- หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นอย่างร้อนแรงติดต่อกัน 5 เดือนเต็ม จนผลักดันให้ Forward PER ปี 2568 ของดัชนี S&P500 แตะระดับสูงสุดในรอบปี ตลาดเริ่มเข้าสู่ช่วงพักฐานในแนวโน้มขาขึ้น นักลงทุนเริ่มระมัดระวัง โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่แสดงสัญญาณ Overbought หรือ มีแรงซื้อมากเกินไปทางเทคนิค
ข้อมูลจากทีม Wealth Research หลักทรัพย์บัวหลวง ระบุว่าเริ่มเห็นแรงขายทำกำไรชัดเจนในหุ้นกลุ่มที่มีกำไรต่ำหรือยังขาดทุน สัญญาณนี้สะท้อน Rolling Correction หรือการปรับฐานหมุนเวียนที่ตลาดไม่ได้ทรุดตัวลงพร้อมกันทั้งหมด แต่เกิดขึ้นทีละกลุ่มอุตสาหกรรม โดยมักเริ่มจากหุ้นกระแส (Meme Stock) หรือหุ้นที่ยังไม่มีผลกำไรชัด จากนั้นแรงขายจะหมุนไปยังกลุ่มอื่น และอาจขยายไปถึงหุ้นขนาดใหญ่ กระบวนการนี้มักใช้เวลา 1–2 เดือน
อย่างไรก็ตาม การปรับฐานครั้งนี้ไม่ได้หมายถึงการเปลี่ยนโครงสร้างตลาด แต่เป็นการปรับสมดุลชั่วคราวท่ามกลาง วัฏจักรกระทิงรอบใหญ่ (Supercycle) ซึ่งยังดำเนินต่อไป ถือเป็นตลาดขาขึ้นรอบที่ 4 ในรอบศตวรรษ ต่อจากยุคทองใน ทศวรรษ 2463–2472, 2523–2532 และ 2533–2542
พลังขับเคลื่อนหลักมาจากการเปลี่ยนผ่านเชิงโครงสร้างของเศรษฐกิจโลก จากยุคดิจิทัลสู่ยุค ปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมการลงทุนมหาศาลในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและอุตสาหกรรมใหม่ การพักฐานครั้งนี้จึงเปรียบเสมือนการระบายความร้อนของเครื่องยนต์ ก่อนที่จะเร่งเครื่องเต็มกำลังในปี 2569 เมื่อปัจจัยหนุนด้านเทคโนโลยีและภาคการผลิตกลับมาส่งผลอย่างเต็มศักยภาพ
ในเชิงพฤติกรรมการปรับฐานรอบนี้เป็น Healthy Correction หรือการปรับตัวลงชั่วคราวที่เป็นปกติและจำเป็นต่อการเติบโตระยะยาวของตลาดเพื่อสลายแรงเก็งกำไรในหุ้นที่ราคานำปัจจัยพื้นฐานไปไกล โดยเฉพาะกลุ่มที่นักลงทุนถือครองหนาแน่น เมื่อแรงขายในกลุ่มเหล่านี้เบาบางลง เม็ดเงินจะเริ่มหมุนเวียนเข้าสู่กลุ่มที่ยังมีมูลค่าน่าสนใจ (Laggards) ส่งผลให้ตลาดปรับสมดุลต้นทุน (Readjustment) และสร้างรากฐานสำคัญสำหรับโมเมนตัมขาขึ้นในระลอกถัดไป
หากตลาดปรับฐานลงราว 10% จากจุดสูงสุด ดัชนี S&P500 ที่ระดับ 6,200 จุด จะทำให้ Forward PER ปี 2568 และ 2569 ลดลงสู่ระดับ 21.4 และ 19 เท่า ตามลำดับ ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีที่ 21.5 เท่า และสอดคล้องกับแนวรับทางเทคนิคสำคัญบริเวณ EMA200 วัน (6,190 จุด) และ Fibonacci retracement 38.2% (6,120 จุด)
3 ธีมลงทุนหลักของ Supercycle ปี 2569
- The Intelligence Leap – ปัญญาและนวัตกรรมอัจฉริยะ
เศรษฐกิจโลกกำลังเปลี่ยนสู่ยุคอัจฉริยะ เทคโนโลยี AI จะกลายเป็นโครงสร้างพื้นฐานใหม่ การผสาน AI เข้ากับองค์กร (AI Integration) และ Agentic AI จะเพิ่มผลิตภาพแรงงานอย่างก้าวกระโดด กลุ่ม AI Value Chain, Quantum Computing และ Health Tech จะได้รับความสนใจสูงและมีโอกาสซื้อขายในระดับมูลค่าพรีเมียม
- The Defense Awakening – ยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศ
ภูมิรัฐศาสตร์โลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World) ทำให้การเพิ่มงบประมาณกลาโหมและการแข่งขันด้านเทคโนโลยีอาวุธกลายเป็นเรื่องปกติ กลุ่ม Defense Tech จะเป็นผู้ได้ประโยชน์โดยตรง และคาดว่าจะสร้างผลตอบแทนโดดเด่น
- The Energy Shift – พลังงานยุคข้อมูลและการประมวลผลสูง
ความต้องการไฟฟ้าจาก Data Center และ High-Performance Computing ก่อให้เกิดภาวะขาดแคลนพลังงานเชิงโครงสร้าง การนำเทคโนโลยีนิวเคลียร์ขนาดเล็ก (SMR) และระบบจัดเก็บพลังงานอัจฉริยะมาใช้ จะเปิดโอกาสเติบโตในห่วงโซ่อุตสาหกรรมพลังงานรุ่นใหม่ ตั้งแต่ผู้ผลิตยูเรเนียม อุปกรณ์นิวเคลียร์ ไปจนถึงโครงสร้างพื้นฐานพลังงานทางเลือก
ภายใต้กรอบนี้ ทีม Wealth Research หลักทรัพย์บัวหลวง คาดว่า S&P500 จะอยู่ในวงจรขาขึ้นต่อเนื่องในปี 2569 โดยมี เป้าหมายกรณีฐาน (Base Case) ที่ 7,500 จุด แรงหนุนสำคัญมาจากการเติบโตของกำไรต่อหุ้นควบคู่ไปกับการขยายตัวของ PER เมื่อเทคโนโลยีใหม่เริ่มสร้างผลตอบแทนอย่างเป็นรูปธรรม และขนาดตลาดใหญ่พอรองรับการเติบโต
กราฟเปรียบเทียบผลตอบแทนดัชนี S&P500 ในทศวรรษ 1980s (พ.ศ. 2523–2532) และทศวรรษ 1990s (พ.ศ. 2533–2542)
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
