ธารน้ำแข็งเทือกเขาแอลป์ถล่ม สร้างความกังวลใหม่ เสี่ยงน้ำท่วมหมู่บ้านใกล้เคียง

ภาพดาวเทียม ทะเลสาบที่ติดอยู่หลังกองเศษธารน้ำแข็งที่ฝังหมู่บ้านและปิดกั้นแม่น้ำในบลาตเทน ภาคใต้ของสวิตเซอร์แลนด์ แสดงให้เห็นบ้านเรือนที่ถูกทำลายจากดินโคลนและจมอยู่ใต้น้ำ ท่ามกลางความความกลัวว่าจะเกิดน้ำท่วมในหุบเขาแอลป์ แม้ว่าน้ำบางส่วนจะค่อยๆ ลดระดับลงตั้งแต่เมื่อวันที่ 30 พ.ค.68 ก็ตาม
เมื่อวันพุธที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา น้ำแข็ง โคลน และหินปริมาณหลายล้านลูกบาศก์เมตรไหลลงมาจากภูเขา ท่วมหมู่บ้านบลาตเทน บ้านเรือนถูกน้ำท่วม ชาวบ้านในหมู่บ้าน 300 คนได้รับการอพยพออกไปแล้ว หลังจากที่ส่วนหนึ่งของภูเขาด้านหลังธารน้ำแข็งเบิร์ชเริ่มพังทลาย ทีมกู้ภัยกำลังค้นหาชายวัย 64 ปีที่สูญหายไป แต่ตอนนี้ได้ยุติการค้นหาลงแล้วเนื่องจากสภาพที่ยากลำบากเป็นอุปสรรคของภารกิจ
หลังเหตุการณ์ธารน้ำแข็งพังถล่มทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ 29 พ.ค. เนื่องจากกองเศษซากที่อยู่ห่างออกไปเกือบ 2 กม. ขวางทางแม่น้ำลอนซา ไม่สามารถระบายมวลน้ำแข็งที่ละลายออกไปได้จนเกิดเป็นทะเลสาบท่ามกลางกองเศษซาก สถานการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความกังวลว่าแอ่งน้ำอาจเคลื่อนตัวออกไปและทำให้ต้องอพยพผู้คนเพิ่มขึ้น
เมื่อช่วงดึกของวันที่ 29 พ.ค. เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเตือนให้ประชาชนในกัมเพลและสเตก ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้เคียงและหมู่บ้านที่อยู่ต่ำกว่า อยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตรทางตอนล่างของแม่น้ำลอนซา เตรียมพร้อมสำหรับการอพยพที่อาจเกิดขึ้นในกรณีฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทางการสวิตฯ กล่าวว่า น้ำที่สะสมบางส่วนได้ไหลผ่านเศษซาก โดยคาว่าน้ำอาจไหลกลับลงสู่แม่น้ำได้ และไม่อยู่ในระดับอันตรายเพิ่มขึ้น