ยึดทรัพย์เกินเป้าพันล้าน ปราบยาระยะเร่งด่วนครบ 3 เดือน
พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เปิดเผยผลการปฏิบัติการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด ระยะเร่งด่วน3 เดือน ตั้งแต่ 1 มิถุนายน – 31 สิงหาคม 2567 ในการแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่ 25 จังหวัดนำร่อง ที่ประสบปัญหารุนแรง พบว่า หลายด้านบรรลุเป้าหมายตามตัวชี้วัด ทั้งการจับกุม การแจ้งเหตุ การตรวจยึดต่างๆ สามารถจับกุมในข้อหาความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด เป้าหมายที่ตั้งไว้ 10,924 คดี ดำเนินการได้ 18,764 คดี คิดเป็นร้อยละ 171 ข้อหาสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ เป้าหมาย 327 คดี สามารถดำเนินการได้ 576 คดี เฉลี่ยร้อยละ 176
การตรวจสอบทรัพย์สินเบื้องต้นที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป้าหมายที่ตั้งไว้ 722 ล้านบาท แต่สามารถดำเนินการได้ กว่า 1,000 ล้านบาท เฉลี่ยร้อยละ 148 ถือว่า ผลการปราบปราม หลายส่วนเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้
โดยในสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการจับกุมยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง หากดูการจับกุมยาบ้า ระดับ 1 ล้านเม็ดขึ้นไป มีทั้งหมด 8 คดี รวมกว่า 33 ล้านเม็ด ขณะที่ผลดำเนินงานชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืน ในพื้นที่ 25 จังหวัด ในช่วง3เดือน การนำผู้เสพเข้าสู่กระบวนการบำบัด สามารถ ดำเนินการได้เกินเป้าหมายทุกจังหวัด ภาพรวมอยู่ที่ร้อยละ 93 มีผู้เข้าร่วมบำบัดในโครงการ กว่า 12,500 คน โดยมีสถานีที่เข้าร่วมโครงการ 636 แห่ง ส่วนการนำผู้ที่มีอาการทางจิตเข้าสู่กระบวนการบำบัดยาเสพติด อยู่ที่ร้อยละ 93 มีผู้ป่วย ทั้งหมด 14,300 คน
เลขา ป.ป.ส ระบุเพิ่มเติม ว่า ทาง ป.ป.ส ได้รายงานผลการดำเนินงานยาเสพติด ให้กับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบถึงปัญหายาเสพติด โดยทางนายกรัฐมนตรี มีการเสนอแนะให้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหายาเสพติดในหลายพื้นที่ เช่น อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด และอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน พยายามให้เป็นจังหวัดสีขาวภายใน 30 กันยายน 2567 พร้อมยกระดับการปราบปรามให้มีความเด็ดขาดและจริงจังมากยิ่งขึ้น ทั้งการจับกุมผู้ค้ารายใหญ่ รายย่อย และตัวยาเสพติด และให้พัฒนาระบบการประมวลผลข้อมูลการแก้ไขปัญหายาเสพติดให้เหมือนกับการรายงานสถานการณ์โควิด 19 เพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์สถานการณ์การวางแผน และให้ขยายปฏิบัติการเร่งรัดในพื้นที่ 25 จังหวัดนำร่องสู่ 77 จังหวัดในปีงบประมาณ 2568