รีเซต

เตือนภัยแบงก์พันปลอมระบาดหนัก คราวนี้มาเป็นแก๊ง หมู่บ้านเดียวโดนเกือบ 30 ใบ

เตือนภัยแบงก์พันปลอมระบาดหนัก คราวนี้มาเป็นแก๊ง หมู่บ้านเดียวโดนเกือบ 30 ใบ
มติชน
1 พฤษภาคม 2565 ( 15:21 )
155
เตือนภัยแบงก์พันปลอมระบาดหนัก คราวนี้มาเป็นแก๊ง หมู่บ้านเดียวโดนเกือบ 30 ใบ

เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 1 พฤษภาคม 65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หมู่บ้านพฤกษา3 ต.บางคูรัด อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พบแบงค์ปลอมระบาด หลังมีผู้โพสต์เฟซบุ๊กผ่านเพจ “ของกินของใช้ส่งฟรีพฤกษา3″ ว่า เตือนภัยนะครับ แบงค์ปลอมโซนบ้านเรา เห็นว่าร้านทุเรียนโดนกันไปหลายร้าน เช็คกันดีๆนะครับ เจอแค่แบงค์พันตอนนี้”

 

 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านพฤกษา3 เพื่อติดตามสอบถามถึงกรณีดังกล่าว พบ นาง สุดารัตน์ เพลโลว์ อายุ 48 ปี ลูกจ้างร้านขายไก่หมุนสะพาน1 ภายใน ม.พฤกษา3 นาง สุดารัตน์เล่าว่า เมื่อเช้าวันที่ 30 เม.ย.ที่ผ่านมา ช่วงเวลาประมาณ 09.00 น.ซึ่งเป็นเวลาที่ร้านเริ่มเปิดขายพอดี ได้มีผู้หญิงคนหนึ่งแต่งตัวสวมเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ เดินเข้ามาสั่งไก่หมุนที่ร้านจำนวน 1 ตัว หลังจากนั้นก็ได้ให้แบงก์ 1,000 กับตนมา ด้วยความที่เป็นลูกค้าคนแรก ตนจึงไม่มีเงินถอนจึงได้เดินไปขอแลกเงินที่ร้านขายกล้วยทอดฝั่งตรงข้ามซึ่งตนแลกกันเป็นประจำอยู่แล้ว

 

 

หลังจากนั้นก็เดินกลับเอาเงินมาทอนให้กับลูกค้าไป หลังจากนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง ทางพี่ร้านขายกล้วยทอดก็ได้เดินเอาแบงก์พันที่เราเอาไปแลกมาคืนแล้วบอกว่าเป็นแบงค์ปลอมนะ ตอนนั้นตนตกใจมากทำอะไรไม่ถูก ก็เอาแบงก์พันดังกล่าวมาตรวจสอบดูก็พบว่าเป็นแบงก์ปลอมจริงๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะโดนกับตัว และที่คิดว่าเป็นผู้หญิงคนนี้ที่เอาแบงก์ปลอมมาซื้อกับเราเพราะว่า เมื่อวานนี้ผู้หญิงคนนี้เป็นลูกค้าคนแรกและเป็นคนเดียวที่เอาแบงก์ 1,000 มาซื้อ แต่เราก็ไม่ได้ไปกล่าวหาว่าเขาเป็นคนร้ายนะแค่สงสัยว่าน่าจะเป็นเขาก็เท่านั้น

 

ตอนนี้ตนต้องมารับผิดชอบเงินคืนให้เจ้าของร้านเพราะตนเป็นแค่ลูกจ้าง ค่าแรงวันละ300เท่านั้นเอง โดนเอาแบงก์พันปลอมมาซื้อแถมได้ไก่ไปอีก1ตัว ไก่ตัวละ 190 บาท เหมือนตัวเองโดนเอาเงินไป 1,200บาทเลย ต้องมานั่งชดใช้เงินให้กับเจ้าของร้านอีก ยอมรับว่าแค้นใจมากไม่น่ามาทำกันแบบนี้คนทำมาหากิน เศรษฐกิจก็ไม่ค่อยดี ไม่รู้ว่าจะทำไปเพื่ออะไรก็ขอให้หยุดซะ และอยากฝากเตือนไปถึงบรรดาพ่อค้าแม่ค้าให้ตรวจสอบเวลารับเงินให้ดีๆ ดูดีๆว่าแบงก์จริงหรือปลอม หรือไม่ก็ปฏิเสธการรับแบงก์พันไปเลย อย่างตอนนี้ตนก็ปฏิเสธแบงก์พันหากใครจะมาซื้อของแล้วใช้แบงก์พันจ่ายตนก็ไม่รับ

 

นางพิมพ์ชนก หรือพี่ผึ้ง สูงสุดเอื้อม อายุ 50 ปี ร้านกล้วยทอดสะพาน1 ซึ่งเปิดร้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกับร้านไก่หมุนสะพานหนึ่ง ที่ซึ่งนางสุดารัตน์นำแบงก์พันมาแลก กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตอนนั้นหลังจากที่แลกแบงก์ให้นางสุดารัตน์ไปแล้ว ตนก็มานั่งนับเงิน พอมานับแบงก์พันรู้สึกว่าทำไมมันดูหนาๆกว่าปกติ จึงได้ตรวจสอบโดยการเอาแบงก์พันอีกใบขึ้นมาเปรียบเทียบกัน ก็พบจุดผิดสังเกตุหลายจุดมาก เช่น ความหนาของแบงก์ สี แบงก์ปลอมจะออกสีม่วงๆ ในขณะที่แบงก์จริงสีจะเป็นสีเทา ลายน้ำก็แปลกๆ ที่สำคัญตรงแถบที่เป็นแถบสะท้อนแสงและตรงที่คล้ายๆดอกไม้สีแฉกก็ไม่สะท้อนแสง ตนเห็นว่าผิดปกติจึงให้สามีเอาแบงก์ดังกล่าวไปเช็คการทางธนาคารที่อยู่หน้าหมู่บ้าน ทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารก็บอกว่าเป็นแบงก์ปลอมพร้อมขีดคร่อมและเขียนทับบนแบงก์ดังกล่าวว่าเป็นแบงก์ปลอม ก่อนจะรีบนำกลับมาคืนให้

 

นางสุดารัตน์ในเวลาต่อมา หลังจากนั้นก็ได้มีน้องๆในหมู่บ้านขี่รถมาบอกกับตนว่าให้ระวังแบงก์พันปลอม ตอนนี้ภายในตลาดของหมู่บ้านโดนกันไปหลายร้านแล้ว จากการสอบถามแบงก์ 1,000 ปลอม ที่ระบาดภายในหมู่บ้านพฤกษา3 วันเดียว โดนไปแก๊งดังกล่าวนำแบงก์พันปลอมมาใช้ จำนวนกว่า 30 ใบแล้วที่ตรวจพบ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งออกจับกุมมิจฉาชีพแก๊งนี้ด่วน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง