เช็กรถอย่างไร? เตรียมความพร้อมให้รถ ก่อนคลายล็อกดาวน์

นับถอยหลังอีกไม่กี่วันก็จะมีการเปิดประเทศกันแล้ว หลายๆคนใช้ชีวิตอยู่กับบ้าน ระวังตัวไม่ออกไปไหน และใช้ชีวิตแบบ New normal ไม่ไปในที่ซึ่งมีคนพลุกพล่าน รถยนต์ที่เคยใช้กันอยู่กันเป็นประจำก็ไม่ค่อยได้นำออกมาใช้ เป็นผลมาจากมาตรการเคอร์ฟิว ที่ทำให้เราไม่สามารถเดินทางข้ามจังหวัดกันได้ง่ายๆ ดังนั้นการเตรียมพร้อมรถยนต์จึงเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก หากเปิดให้มีการเดินทางกันเป็นปกติ trueID จึงรวบรวมจุดเช็กสำคัญก่อนเดินทาง มาให้ทุกคนทราบ 

จุดที่ควรเช็กก่อนใช้รถ

แบตเตอรี่

ไฟฟ้าคือหัวใจหลักของการสตาร์ทเครื่องยนต์ ตรวจดูสภาพของแบตเตอรี่ ว่าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์หรือไม่ หมั่นตรวจเช็กทำความสะอาดคราบขี้เกลือที่ขั้วแบต เช็กระดับน้ำกลั่นให้อยู่ในระดับที่กำหนด ตรวจสอบความแน่นของขั้วแบต และฉนวนหุ้มสาย

• ทดสอบแบตเตอรี่รถยนต์เสมือนจริงฟรี

ล้อและยางรถยนต์

เป็นอีกจุดที่สำคัญมากๆ เพราะอุบัติเหตุส่วนหนึ่งบนท้องถนน เกิดจากยางระเบิดขณะขับขี่ ดังนั้นยางที่ดีต้องอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ไม่รั่ว ไม่ซึม ไม่แตกลายงา มีดอกยางเพียงพอ ยิ่งในหน้าฝนหากไม่มีดอกยางอาจทำให้เกิดการลื่นไถลได้ ควรเติมลมยางตามที่คู่มือประจำรถกำหนด ส่วนล้อก็ควรอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ ไม่คด ไม่เบี้ยว และที่สำคัญ อย่าลืมเช็กน็อตล้อด้วยนะครับ ว่าขันแน่นหรือเปล่า

ช่วงล่าง

ตรวจเช็กด้วยการลองขับบนถนนเรียบทางตรง โดยสังเกตพวงมาลัยว่าตรงหรือไม่ หากพวงมาลัยไม่ตรงก็จัดการนำรถไปตั้งศูนย์ใหม่ พวกชิ้นส่วนต่างๆของช่วงล่าง เช่นลูกหมาก หากขับทางขรุขระแล้วมีเสียงกุกกัก ก็รีบให้ช่างแก้ไขโดยด่วน โช้คก็เช่นกัน ตรวจเช็กคราบน้ำมันบริเวณแกนโช้ค ว่ารั่วหรือไม่ เพราะระบบช่วงล่างทั้งหมดมีผลต่อการทรงตัวขณะขับขี่

ระดับน้ำมันเบรก และ ระบบเบรก

หลายท่านเข้าใจว่าหากน้ำมันเบรกหาย เราต้องเติมน้ำมันเบรกเพื่อให้อยู่ในระดับปริมาณที่พอดี แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าระบบเบรกความเป็นจริงแล้วคือระบบปิด ความหมายก็คือน้ำมันเบรกจะอยู่แต่ภายในระบบเบรก จะไม่มีการละเหยเหมือนน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งแน่นอนว่าถ้าผ้าเบรกไม่สึก หรือถ้าไม่มีจุดไหนรั่ว น้ำมันเบรกจะไม่สามารถหายไปได้ง่ายๆ ดังนั้นหากรถเราน้ำมันเบรกหาย อย่าเพิ่งเติมครับ เราต้องหาสาเหตุให้ได้ก่อนว่าน้ำมันเบรกหายไปได้อย่างไร

ระบบไฟส่องสว่าง

ทั้งไฟหน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอก ไฟเลี้ยว และไฟฉุกเฉิน จะต้องใช้งานได้ครบทุกจุด แสงสว่างจะต้องคมชัด ไม่มัว ยิ่งเดินทางในช่วงกลางคืนระบบไฟส่องสว่างถือว่าจำเป็นมากในการเดินทาง

น้ำมันเครื่อง

น้ำมันเครื่องถือเป็นสิ่งที่จำเป็นของระบบกลไกต่างๆในเครื่องยนต์ ประสิทธิภาพของน้ำมันเครื่องที่ดี จะต้องผ่านการใช้งานไม่เกินระยะทางที่คู่มือกำหนด ระดับน้ำมันเครื่องจะต้องอยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งเราสามารถตรวจเช็กได้จากก้านวัดน้ำมันเครื่อง และขณะเดินทางควรมีน้ำมันเครื่องสำรองติดรถไว้อย่างน้อย 1 ลิตร เผื่อได้ใช้ในยามฉุกเฉิน

หม้อน้ำ ท่อยาง และ ระบบหล่อเย็น

ระบบระบายความร้อน ถือเป็นอีกหัวใจหลักของเครื่องยนต์ เพราะด้วยความร้อนสะสมในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน บวกกับอุณหภูมิภายนอกที่ร้อน หากระบบระบายความร้อนไม่ดีหรือมีปัญหา อาจทำให้เครื่องยนต์น็อคได้ ดังนั้นเราควรเช็กระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อพักและหม้อน้ำ เช็กการทำงานของพัดลมหม้อน้ำและมอเตอร์ ตรวจสอบรอยรั่วของหม้อน้ำ ท่อยาง และข้อต่อต่างๆ หากตรวจพบว่ามีน้ำไหลซึม ควรรีบแก้ไขโดยด่วน

ที่ปัดน้ำฝน

สำหรับในหน้าฝนนี้ ควรเช็กสภาพยางที่ปัดน้ำฝนให้พร้อม เพราะบางครั้งเราก็ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าฝนจะตกลงมาเมื่อไหร่ รวมทั้งอาจมีสิ่งสกปรกมาโดนกระจกขณะขับรถ ถ้าที่ปัดน้ำฝนใช้ไม่ได้ ทัศนวิสัยขณะขับรถก็จะแย่ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายขึ้น

เช็ก  ชุดเครื่องมือประจำรถ

เช่น ล้อ-ยางอะไหล่ ,แม่แรง ,ชุดเครื่องมือในการถอดล้อ ,ที่เติมลมฉุกเฉิน ,สายพ่วงแบต ,สายลากรถ ,ไฟฉาย ซึ่งเครื่องมือเหล่านี้ควรมีติดรถเอาไว้ จะได้อุ่นใจยามเดินทาง มีแล้วไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี

และทั้งหมดนี้ก็เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นนะครับ รถก็เหมือนคนนั่นแหละครับ ต้องการการดูแลใส่ใจ หากพบอะไรผิดปกติ อย่ารีรอที่จะแก้ไข เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเราเองและเพื่อนร่วมทางทุกๆคน

เช็ก เอกสารสำคัญต่างๆที่เกี่ยวกับรถ

ใบขับขี่ คือสิ่งที่เราต้องพกติดตัวอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว รวมถึงตัวเอกสารสำคัญของรถ เช่น ภาษี พรบ. ต้องไม่ขาดเกิดกำหนด หากเกินกำหนดควรไปต่อให้เรียบร้อย ประกันรถก็สำคัญมีไว้อุ่นใจกว่า เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้เสมอ ทุกอย่างต้องครบ เพื่อเซฟตัวเราและรถของเราด้วย

เช็ก กล้องบันทึกภาพ

- ตรวจเช็กความปกติในการทำงาน พร้อมใช้งาน องศาในการติดตั้งกล้อง เช็กวิดิโอย้อนหลัง ต้องเป็นไฟล์ขับขี่ล่าสุด

- Format Memory Card เพื่อลดปัญหาการ Error หรือลบไฟล์ที่ไม่จำเป็น

- ตรวจเช็กวันที่ และเวลา ต้องตรงกับปัจจุบัน

- ตรวจเช็กความสะอาดของเลนส์กล้อง

- ตรวจเช็กระบบการชาร์จของรถ การจ่ายไฟให้ตัวกล้องต้องทำงานปกติ 

ท้ายสุด เช็ก ความพร้อมคนขับ

คนขับควรเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเดินทางไกล เตรียมร่างกายให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ ไม่รับประทานยาที่จะส่งผลกระทบกับความสามารถในการขับขี่ และควรศึกษาเส้นทางการเดินทางก่อนออกเดินทาง

ขับขี่อย่างไร ให้ปลอดภัย

1. อย่าฝืนขีดจำกัดในการขับรถของตนเอง
2. ต่อให้ระวังแค่ไหนการขับเร็วก็ไม่อาจเลี่ยง “วิสัยทัศน์อุโมงค์” และเสี่ยงอุบัติเหตุ
3. เหนื่อยต้องพัก นอนให้พออย่างน้อย 8 ชม. หากง่วงอย่าฝืนขับ ดับรถแล้วนอนพักในที่ปลอดภัย
4. ดื่มน้ำผลไม้ที่มีวิตามินซีแทนกาแฟและเครื่องดื่มชูกำลัง
5. เลี่ยงขับใกล้รถบรรทุกที่มีจุดบอดรอบคัน โดยเฉพาะด้านซ้ายที่อันตรายที่สุด
6. อย่าใช้ไฟฉุกเฉินผิดวัตถุประสงค์ โดยเฉพาะขณะฝนตกหนักหรือหมอกจัด

ข้อมูล : cleanipedia , krungsriautobroker , autospinn

ภาพโดย S. Hermann & F. Richter จาก Pixabay 

--------------------

เกาะติดสถานการณ์โควิด-19  ทันความเคลื่อนไหว ได้ความรู้ที่ถูกต้อง ส่งตรงถึงมือคุณ
คลิกเลย!! >>> รู้ทันกันโควิด <<< หรือ กด *301*35# โทรออก