"Unilever" เลื่อนแผนแยกบริษัทไอศกรีม ล็อกดาวน์สหรัฐ ทำสะดุด!

บริษัท Unilever ผู้ผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของโลก เจ้าของแบรนด์ Dove และ Hellmann’s เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า บริษัทจำเป็นต้องเลื่อนการแยกธุรกิจไอศกรีมภายใต้ชื่อ The Magnum Ice Cream Company หรือ TMICC ออกไปอย่างไม่มีกำหนด เนื่องจากการปิดทำการของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ส่งผลให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ (SEC) ไม่สามารถอนุมัติเอกสารการจดทะเบียนหุ้นสำหรับการเสนอขายในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กได้ตามแผน

เดิมที Unilever มีกำหนดนำ TMICC เข้าจดทะเบียนหลักในตลาดหลักทรัพย์กรุงอัมสเตอร์ดัม ในวันที่ 10 พฤศจิกายนนี้ พร้อมจดทะเบียนรองในนิวยอร์กและลอนดอน โดย Unilever จะยังคงถือหุ้นในธุรกิจไอศกรีมนี้ ร้อยละ 19.9 ซึ่งรวมถึงแบรนด์ Magnum, Ben & Jerry’s และ Cornetto ไว้ในพอร์ต

การเลื่อนดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงผลกระทบของการปิดทำการของรัฐบาลกลางสหรัฐ ซึ่งดำเนินมากว่า 3 สัปดาห์ และสร้างความล่าช้าในหลายภาคส่วนของเศรษฐกิจ ตั้งแต่การทบทวน IPO ไปจนถึงอุตสาหกรรมการบิน โดยมีการประเมินว่าความสูญเสียทางเศรษฐกิจอาจสูงถึง 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อสัปดาห์

Unilever ระบุว่า แม้การจดทะเบียนจะล่าช้า แต่กระบวนการเตรียมการภายในยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และบริษัทจะยังคงมุ่งมั่นดำเนินการแยกธุรกิจให้แล้วเสร็จภายในปี 2568 ตามแผนเดิม ขณะที่ผู้ถือหุ้นได้ลงมติสนับสนุนการปรับโครงสร้างทุนของบริษัทในการประชุมใหญ่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา แต่บริษัทจะต้องปรับเปลี่ยนกำหนดการดำเนินงานบางส่วนให้สอดคล้องกับสถานการณ์

นักวิเคราะห์ในตลาดทุนมองว่า การแยกธุรกิจไอศกรีมออกจาก Unilever เป็นยุทธศาสตร์สำคัญที่ช่วยให้บริษัทสามารถมุ่งเน้นธุรกิจหลักในกลุ่มความงาม สุขอนามัย และอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมเปิดทางให้ TMICC มีความยืดหยุ่นในการขยายตลาดและสร้างมูลค่าเฉพาะด้าน

ทั้งนี้ การแยกธุรกิจ Magnum ถือเป็นบททดสอบความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณน้ำตาลสูงในช่วงเวลาที่รัฐบาลสหรัฐกำลังส่งเสริมแนวคิด Make America Healthy Again เพื่อลดการบริโภคอาหารหวานและไขมันสูงในประเทศ

ด้านนักลงทุนรายใหญ่ของ Unilever ระบุว่า การเลื่อนกำหนดดังกล่าวไม่ใช่ประเด็นที่น่ากังวล เนื่องจากปัจจัยสำคัญอยู่ที่ศักยภาพและคุณภาพของธุรกิจในระยะยาว ไม่ใช่จังหวะเวลาในการเข้าตลาด โดยราคาหุ้น Unilever ในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนลดลงเพียง ร้อยละ 0.8 หลังประกาศเลื่อน ซึ่งถือว่าเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน

นอกจาก Unilever แล้ว บริษัทอื่น ๆ ที่วางแผนเข้าตลาดในสหรัฐ เช่น DeepGreenX Group จากเกาหลีใต้ ก็ต้องถอนการยื่นเอกสารเช่นกัน เนื่องจากไม่สามารถติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ SEC ได้ในช่วงที่หน่วยงานรัฐปิดทำการ

นักวิเคราะห์ชี้ว่า เหตุการณ์นี้อาจส่งผลให้ตลาด IPO ของสหรัฐชะลอตัวในระยะสั้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อบริษัทต่างชาติที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระดมทุนระดับโลก

แม้จะมีความล่าช้าทางเทคนิค แต่ Unilever ยืนยันว่า การแยกธุรกิจ TMICC ยังคงเป็นแผนกลยุทธ์หลักของบริษัท เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและเพิ่มขีดความสามารถในการเติบโตของทั้งสองฝ่ายในระยะยาว โดยคาดว่ากระบวนการทั้งหมดจะสามารถกลับเข้าสู่เส้นทางเดิมได้ทันทีเมื่อรัฐบาลสหรัฐกลับมาเปิดทำการ