รีเซต

อะโดบีเปิดตัว Firefly ช่วยสร้างงานครีเอทีฟแบบมือโปรได้อย่างง่ายดาย ใครๆ ก็ทำได้ด้วย Generative AI

อะโดบีเปิดตัว Firefly ช่วยสร้างงานครีเอทีฟแบบมือโปรได้อย่างง่ายดาย ใครๆ ก็ทำได้ด้วย Generative AI
TNN ช่อง16
28 มีนาคม 2566 ( 15:28 )
86
อะโดบีเปิดตัว Firefly ช่วยสร้างงานครีเอทีฟแบบมือโปรได้อย่างง่ายดาย ใครๆ ก็ทำได้ด้วย Generative AI

เมื่อวันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา อะโดบี (Adobe) เปิดตัวไฟร์ฟลาย (Firefly) ซึ่งเป็นโมเดลปัญญาประดิษฐ์แบบเจเนอเรทีฟ (Generative AI) สำหรับงานครีเอทีฟ (Creative Work) โดยในเบื้องต้นจะมุ่งเน้นที่การสร้างภาพและเอฟเฟกต์ข้อความ Firefly จะช่วยเพิ่มความถูกต้องแม่นยำ ประสิทธิภาพ และความสะดวกรวดเร็วให้กับเวิร์กโฟลว์ Creative Cloud, Document Cloud, Experience Cloud และ Adobe Express ซึ่งรองรับการสร้างและแก้ไขคอนเทนต์ โดย Firefly จะเป็นส่วนหนึ่งของชุดบริการ Adobe Sensei generative AI บนแพลตฟอร์มคลาวด์ของอะโดบี


สรุปการเปิดตัว Firefly โดยย่อ


  1. 1. ไฟร์ฟลาย (Firefly) รุ่นแรกจะช่วยให้ลูกค้าทุกระดับสามารถสร้างภาพที่มีคุณภาพสูงและเอฟเฟกต์ข้อความที่สวยงาม
  2. 2. อะโดบีเปิดตัวไฟร์ฟลาย (Firefly) รุ่นเบต้ารุ่นแรกที่เน้นการใช้งานเชิงพาณิชย์
  3. 3. ไฟร์ฟลาย (Firefly) จะถูกรวมเข้ากับเวิร์กโฟลว์ของ Creative Cloud, Document Cloud, Experience Cloud และ Adobe Express โดยตรง
  4. 4. อะโดบีจะเริ่มการใช้แท็ก “Do Not Train” สำหรับครีเอเตอร์ที่ไม่ต้องการให้คอนเทนต์ของตนถูกนำไปใช้ในการเทรน AI โดยแท็กดังกล่าวยังคงเชื่อมกับคอนเทนต์นั้นๆ ไม่ว่าจะถูกใช้งาน เผยแพร่ หรือจัดเก็บไว้ที่ใดก็ตาม
  5. 5. อะโดบีมีแผนที่จะให้ลูกค้าสามารถขยายการฝึกฝนไฟร์ฟลาย (Firefly) โดยใช้งานครีเอทีฟของตนเอง สร้างคอนเทนต์ตามสไตล์ของตน หรือตามสไตล์ของแบรนด์


อะโดบีมีประวัติที่ยาวนานมากกว่าหนึ่งทศวรรษในด้านนวัตกรรม AI โดยนำเสนอความสามารถอัจฉริยะหลายร้อยรายการผ่าน Adobe Sensei ในแอปพลิเคชันที่ผู้ใช้หลายร้อยล้านคนไว้วางใจเลือกใช้  ฟีเจอร์ต่างๆ เช่น Neural Filters ใน Photoshop, Content Aware Fill ใน After Effects, Attribution AI ใน Adobe Experience Platform และ Liquid Mode ใน Acrobat ช่วยให้ลูกค้าของอะโดบีสามารถสร้าง แก้ไข วัดผล เพิ่มประสิทธิภาพ และรีวิวคอนเทนต์หลายพันล้านชิ้นได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ง่ายดาย แม่นยำ และเปี่ยมด้วยประสิทธิภาพ  นวัตกรรมเหล่านี้ได้รับการพัฒนาและปรับใช้โดยสอดคล้องกับหลักจริยธรรมด้าน AI ของอะโดบี ทั้งในแง่ที่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือ ความรับผิดชอบ และความโปร่งใส


เดวิด วาดห์วานี ประธานฝ่ายธุรกิจสื่อดิจิทัลของอะโดบี กล่าวว่า “Generative AI คือวิวัฒนาการขั้นต่อไปของการสร้างสรรค์และการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยการขับเคลื่อนของ AI เป็นการพลิกโฉมการสื่อสารระหว่างครีเอเตอร์กับคอมพิวเตอร์ให้มีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น รวมถึงมีประสิทธิภาพและความสะดวกในการใช้งานมากขึ้นด้วย  ด้วยการทำงานของ Firefly อะโดบีจะผสานรวม ‘องค์ประกอบของงานครีเอทีฟ’ ที่ขับเคลื่อนด้วย Generative AI เข้ากับเวิร์กโฟลว์ของลูกค้าโดยตรง ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและการแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ให้กับครีเอเตอร์ทุกคน ตั้งแต่บุคลากรครีเอทีฟระดับสูง ไปจนถึงผู้ใช้งานในทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจ Creator Economy”


Adobe Firefly มอบพลังพิเศษใหม่ๆ ให้กับครีเอเตอร์


อะโดบีออกแบบไฟร์ฟลาย (Firefly) เพื่อมอบพลังพิเศษให้กับครีเอเตอร์ทุกคนให้สามารถทำงานตามจินตนาการได้อย่างรวดเร็ว Firefly จะช่วยให้ทุกคนที่สร้างคอนเทนต์ ไม่ว่าจะมีประสบการณ์หรือทักษะมากน้อยเพียงใดก็ตาม สามารถใช้จินตนาการของตนเองเพื่อสร้างคอนเทนต์ในแบบที่พวกเขาต้องการ ตั้งแต่รูปภาพ เสียง เวกเตอร์ วิดีโอ และชิ้นงาน 3 มิติ ไปจนถึงองค์ประกอบด้านงานครีเอทีฟ เช่น พู่กัน การไล่ระดับสี และการแปลงวิดีโอ โดยทั้งหมดนี้สามารถทำได้อย่างรวดเร็วและง่ายดายมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน  Firefly จะรองรับการผลิตคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบอย่างไร้ขีดจำกัด รวมถึงการปรับเปลี่ยนได้ตามใจ โดยทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างสะดวกและรวดเร็ว  อะโดบีจะรวม Firefly เข้ากับเครื่องมือและบริการชั้นนำของอุตสาหกรรมโดยตรง ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถใช้ประโยชน์จากพลังของ Generative AI ภายในเวิร์กโฟลว์ที่มีอยู่ได้อย่างง่ายดาย


อะโดบีเปิดตัวไฟร์ฟลาย (Firefly) รุ่นเบต้าวันนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าครีเอเตอร์ที่มีประสบการณ์และทักษะทุกระดับไม่ว่าจะมากหรือน้อยก็สามารถสร้างภาพที่มีคุณภาพสูงและเอฟเฟกต์ข้อความที่น่าทึ่งได้ อะโดบีเชื่อว่าพลังที่สมบูรณ์ของเทคโนโลยีไม่สามารถเกิดขึ้นได้หากปราศจากจินตนาการอันยิ่งใหญ่ที่จะเติมพลังให้กับเทคโนโลยีนั้น  ภายใต้การทดลองใช้งาน อะโดบีจะทำงานร่วมกับชุมชนครีเอเตอร์และลูกค้าเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่สำคัญนี้ และจะผนวกรวมเข้ากับแอปพลิเคชันของอะโดบี  โดยแอปพลิเคชันชุดแรกที่สามารถใช้ Firefly ได้แก่ Adobe Express, Adobe Experience Manager, Adobe Photoshop และ Adobe Illustrator


Adobe Firefly ที่สร้างรูปภาพคุณภาพสูงซึ่งรองรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย


ไฟร์ฟลาย (Firefly) จะประกอบด้วยหลายโมเดลที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่มีชุดทักษะและความเชี่ยวชาญด้านเทคนิคที่แตกต่างกัน โดยโมเดลเหล่านี้รองรับ use case ที่หลากหลาย โมเดลแรกสุดของอะโดบี จะได้รับการฝึกฝนเกี่ยวกับภาพ Adobe Stock, คอนเทนต์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้งานได้อย่างเปิดเผย และคอนเทนต์สาธารณะที่ลิขสิทธิ์หมดอายุแล้ว โดยจะมุ่งเน้นที่รูปภาพและเอฟเฟกต์ข้อความ โดยสามารถสร้างคอนเทนต์ที่สามารถนำไปใช้งานเชิงพาณิชย์ได้อย่างปลอดภัย  ภาพลิขสิทธิ์ระดับมืออาชีพจำนวนหลายร้อยล้านภาพใน Adobe Stock เป็นส่วนหนึ่งของภาพที่มีคุณภาพสูงสุดในตลาด และช่วยรับประกันว่า Firefly จะไม่สร้างคอนเทนต์โดยอ้างอิงจากทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่นหรือแบรนด์ต่างๆ  โมเดล Firefly ในอนาคตจะใช้ประโยชน์จากทรัพยากร เทคโนโลยี และข้อมูลการเทรนที่หลากหลายจากอะโดบีและอื่นๆ  และเมื่อมีการปรับใช้โมเดลอื่นๆ อะโดบีจะยังคงให้ความสำคัญกับการป้องกันอคติที่อาจเป็นอันตรายได้ (potential harmful bias)



ที่มาของข้อมูลและรูปภาพ Adobe  

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง