เกาะติด "ไต้ฝุ่นโคโตะ-ไซโคลนซินญาร"

เกาะติด พายุ 2 ลูกที่ใกล้กับไทย ทั้ง "ไต้ฝุ่นโคโตะ และ ไซโคลนซินญาร" เพื่อให้ชัดเจนว่า พายุทั้ง 2 ลูกนี้จะส่งผลต่อไทยอย่างไรบ้าง ทีมข่าวเที่ยง TNN ช่อง 16 พูดคุยกับ อ.ชวลิต จันทรรัตน์ ปธ.บริหาร ทีม คอนซัลติ้ง เอนจิเนียริ่ง แอนด์ แมเนจเมนท์ จำกัด (มหาชน)

โดย อ.ชวลิต จันทรรัตน์ ระบุว่า พายุโซนร้อนโคโตะ ขณะนี้อยู่กลางทะเล คาดว่าจะขึ้นฝั่งเวียดนาม ใกล้กับโฮจิมินห์ ซิตี้ ราววันที่ 29-30 พ.ย. 68 นี้ แต่จะมาเจอกับลมหนาว ที่กำลังแรงขึ้น

"ก็เลยทำให้โคโตะ ชะลอๆ แล้วพอขึ้นฝั่งมา ลมหนาวระลอกนี้ตั้งแต่วันนี้ (27 พ.ย. 68 ) ก็เจอกับลมพอดี คาดว่า ไกลสุดที่มาได้คือกัมพูชา แล้วสลายตัว จะกระทบ ระยอง จันทบุรี และตราด เล็กน้อย ไม่กระทบต่อภาคใต้ของไทย"

ส่วนไซโคลนซินญาร อ.ชวลิต จันทรรัตน์ ระบุว่า ในตอนนี้ทวีกำลังแรงขึ้น ก่อนนี้เคยมีผลกับไทยตั้งแต่ ช่วงวันที่ 19-20 พ.ย. 68 ที่มรสุมของไทย ทำให้ฝนตกหนักอยู่มาก่อนแล้วที่สุราษฎร์์ธานี และนครศรีธรรมราช แต่หลังจากนั้น ลมหนาวแผ่ลงมาถึงแล้วในมาเลเซีย และมีหย่อมความกดอากาศนี้ในตอนนั้นทรงตัวอยู่ในพื้นที่ เลยทำให้มรสุมลูกนั้นยังคงอยู่ จนเกิดฝนตก วันละ 100-200 มม. ติดต่อกันมา 5 วัน

กระทั่ง 24-25 พ.ย.68 หย่อมความกดอากาศนี้ก็ทวีกำลังแรงขึ้น ตามปกติของลมใกล้เส้นศุนย์สูตร ทำให้ฝนหนักมากที่มาเลเซีย เหมือนในหาดใหญ่ แล้วเมื่อเคลื่อนไปทางตะวันตกก็คลายตัว ทำให้ฝนน้อยลงตามไปด้วย แต่ไปตกหนักที่ปีนัง มาเลเซีย 

"ตอนแรกก็โล่งใจนะครับ 27-28 ฝนลดลง แต่เมื่อวานก็ยังมากอยู่ แต่วันนี้เหลือน้อยแล้ว ต่ำกว่า 100 มม. ซินญารไปทำให้ฝนตกหนักที่สุมาตรา แต่ปรากฎว่ามีลมแปรปรวน ทำให้ยูเทิร์นกลับมา แต่ดีที่ต่ำกว่าแนวเดิม จากที่จะเข้าปีนัง ไปเข้ากัวลาลัมเปอร์ เพราะลมศูนย์สูตรแปรปรวนสูงมาก เพราะมีภาวะเป็นกลาง ตอนนี้ซินญารเป็นไซโคลน แต่ความรุนแรงก็น้อยกว่าโซนร้อน คาดว่าพรุ่งนี้จะอ่อนกำลังเป็นดีเปรสชัน"

อ.ชวลิต จันทรรัตน์ ระบุว่า อิทธิพลของซินญารนี้ ไทยจะมี้ฝนด้วย ตั้งแต่ สตูล นราธิวาส ยะลา ปัตตานี ฝนอาจจะตกมากกว่า 100 มม.ต่อวันตามแนวชายแดนที่ติดกับมาเลเซีย แต่ฝั่งลุ่มน้ำคลองอู่ตะเภา หาดใหญ่ สงขลาจะมีฝนเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ไม่มาก และน้อยลง ไม่ซ้ำเติมน้ำท่วม แต่ทำให้ตกใจได้ว่าฝนหายไปแล้ว กลับมาตกอีก

"ลมหนาวที่ลงมาจากจีน ความกดอากาศครั้งนี้แรง จะช่วยพยุงไม่ให้สถานการณ์เลวร้ายลงกว่านี้ แต่ความแปรปรวนของทิศทางจะเกิดขึ้นได้อีก แต่จะไม่มาใกล้ไทยมากกว่านี้ แล้วจะสลายตัวต่อไป"

อย่างไรก็ตามไทยจะต้องเฝ้าระวังพายุทางภาคใต้ ยาวไปตลอดทั้งเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นฤดูพายุปกติอยู่แล้ว