ดารุมะ ทำความรู้จัก ‘ตุ๊กตาแห่งความหวัง’ ของชาวญี่ปุ่น
จากเคสดรามา ดารุมะ ซูชิ ใครหลายคนอาจเห็นโลโก้ของร้าน เป็นตุ๊กตาตัวกลมๆสีแดงๆ รู้หรือไม่ว่าเจ้าตุ๊กตาตัวนี้มีความหมายที่ลึกซึ้งมากกว่าที่เราคิด และ เป็นเครื่องรางยอดนิยมของชาวญี่ปุ่น เรามาทำความรู้จักเจ้าตุ๊กตาตัวนี้กันว่ามีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร
ตุ๊กตาตัวสีแดงๆกลมๆที่เราเห็นจนชินตานั้นมีชื่อเรียกว่า ‘ดารุมะ’ มีต้นแบบมาจากภาพวาดของพระโพธิธรรม ประดิษฐ์ขึ้นจากกระดาษวาชิ ด้านในกลวงแต่ตรงส่วนก้นนั้นมีน้ำหนัก มีลักษณะอ้วนกลมคล้ายตุ๊กตาล้มลุก ไม่มีแขน ไม่ขา ไม่มีลูกตา แต่มีคิ้วกับเคราสีดำ
ความหมายแฝงใน ตุ๊กตาดารุมะ
ลวดลายที่วาดบนตุ๊กตานั้นมีความหมายแผงตามคติธรรมของชาวญี่ปุ่น ขนคิ้วเหมือนนกกระเรียน หนวดเครา คือ กระดองเต่า สื่อความหมายที่ว่า การมีชีวิตที่ยืนยาว เป็นตัวแทนของความโชคดีและสงบสุข ส่วนสีแดงนั้น มาจากพระโพธิธรรมในสมัยก่อนทรงสวมจีวรสีแดง จึงทาตัวเป็นสีแดง ซึ่งเชื่อว่าสามารถขับไล่ภูตผีปีศาจ โรคร้ายต่างๆ
ชาวญี่ปุ่นในสมัยก่อนนิยมมอบให้เป็นของขวัญแก่เด็กๆ เพราะเชื่อว่าจะทำให้เด็กๆแข็งแรงปลอดภัยจากเคราะห์ร้าย ด้วยลักษณะที่เหมือนตุ๊กตาล้มลุกสื่อความหมายอีกอย่างนึงว่า ‘ไม่ว่าจะล้มสักกี่ครั้ง ก็สามารถลุกขึ้นมาได้เสมอ’
ตุ๊กตาดารุมะยังมีสีอื่นๆนอกจากสีแดง เช่น
สีม่วง หมายถึงชีวิตที่ยืนยาว
สีเขียว หมายถึงสุขภาพ
สีเหลือง หมายถึงชื่อเสียง
สีทอง หมายถึง เงินทอง
สีขาว หมายถึงตัวแทนแห่งการศึกษา เล่าเรียน
บริเวณคางของตุ๊กตาดารุมะจะมีการเขียนคำอวยพรเอาไว้ ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นความหมายด้านบวกเช่นโชคดี สุขภาพดี สอบผ่าน ชัยชนะ เป็นต้น
วิธีการขอพรจาก ตุ๊กตาดารุมะ
นี่คือเหตุผลว่าทำไมตุ๊กตา ดารุมะ ถึงไม่มีลูกตาดำ เพราะเว้นให้ผู้ที่ขอพรวาดเองพร้อมกับวาดตาขวาก่อนหนึ่งข้าง เมื่อสมปราถนาก็จะวาดข้างซ้ายต่อจากนั้นก็จะนำตุ๊กตาดารุมะที่มีดวงตาครบสมบูรณ์วางไว้บนที่สูง หันหน้าไปทางทิศใต้ เมื่อครบหนึ่งปี ตุ๊กตาดารุมะจะหมดวาระหน้าที่ ถึงเวลาที่ควรนำไปทิ้งไม่ว่าพรจะสมปรารถนาหรือไม่ โดยวิธีการทิ้งคือส่งคืนให้กับศาลเจ้า หรือทางที่ดีให้นำไปเผาในเทศกาลที่จัดขึ้นโดยเฉพาะ ไม่ควรทิ้งลงถังขยะเพราะตุ๊กตาดารุมะเปรียบเสมือนของสูงของคนญี่ปุ่น
ข้อมูลจาก : องค์การส่งเสริมท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น
ภาพจาก : AFP