เทศบาลนครนนท์ยันทุ่ม 260 ล. ฝากรัฐหิ้ววัคซีนโควิด-19 ฉีดให้ปชช.ในพื้นที่ เผยกว่า 20 แห่งเอาด้วย

จากกรณีที่นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี ประกาศพร้อมช่วยเหลือรัฐบาลในการจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 เพื่อฉีดให้ประชาชนในพื้นที่ จ.นนทบุรี โดยทุ่มงบประมาณกว่า 260 ล้านบาท เพื่อแบ่งซื้อวัคซีนจากรัฐบาล จำนวน 4 แสนโดส นั้น

วันนี้ (11 มกราคม 2564) นายสมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี เดินทางเข้าพบ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อหารือถึงความเป็นไปได้ในแนวทางดังกล่าว

ทั้งนี้ ภายหลังการหารือ นายสมนึก เปิดเผยว่า เทศบาลนครนนท์ มีประชาชนราว 2.5 แสนคน การที่เทศบาลนำงบประมาณของท้องถิ่นมาเพื่อจัดซื้อวัคซีน-19 โดยเป็นการสนับสนุนรัฐบาล เหมือนเป็นการแชร์ ให้การดำเนินการกระจายฉีดวัคซีนรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จะจัดซื้อวัคซีนจากรัฐบาล 4 แสนโดส สำหรับประชากร 2 แสนคน ใน จ.นนทบุรี เนื่องจากเทศบาลมีความพร้อมด้านงบประมาณ สามารถสนับสนุนได้และเพื่อให้รัฐฯ นำเงินไปซื้อวัคซีนมาเพิ่มและกระจายไปยังท้องถิ่นอื่น อย่างไรก็ตาม การซื้อจะอยู่ในราคาเดียวกับรัฐบาลจัดหามาได้ และการพิจารณากลุ่มเสี่ยงจะดำเนินการตามที่ สธ.วางไว้ พร้อมทั้งขอสนับสนุนบุคลากรทางการแพทย์จากสถานบริการใน สธ. มาฉีดให้กับประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า จ.นนทบุรี เป็นพื้นที่คาดว่าจะได้รับวัคซีนเป็นพื้นที่แรกๆ ในประเทศไทยอยู่แล้ว การนำงบฯ มาซื้อวัคซีนจากรัฐบาล จะเป็นการดำเนินงานที่ซ้ำซ้อนหรือไม่ นายสมนึก กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลเป็นผู้ดำเนินการฉีดเองก็จะช้าและอาจไม่เพียงพอ ไม่ครอบคลุมคนนนท์ทั้งหมด

“เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อ เราต้องเร่งฉีดวัคซีนให้กับคนในจังหวัด ดังนั้น เราก็เป็นเหมือนแขน เป็นขาให้กับรัฐบาลการกระจายวัคซีนฉีดให้กับคนในพื้นที่ของเรา และได้หารือร่วมกับ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัด สธ.แล้ว ซึ่งท่านก็รับทราบ และก็เห็นว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ท้องถิ่นจะเข้ามาช่วยเหลือเรื่องนี้” นายสมนึก กล่าว

เมื่อถามต่อว่า หากรัฐบาลไม่อนุมัติเรื่องนี้ ท้องถิ่นจะหาซื้อจากแหล่งอื่นเพื่อนำมาฉีดให้คนนนท์หรือไม่ นายสมนึก กล่าวว่า หากมีการเปิดช่องให้ซื้อวัคซีนจากภาคเอกชนได้ ก็คาดว่าจะไม่ทำ เนื่องจากไม่อยากให้เกิดความกังวลใจว่า วัคซีนที่ได้รับจากเทศบาลจะมีคุณภาพเหมือนกับของที่รัฐบาลฉีดให้หรือไม่ อยากให้มีมาตรฐานเดียวกับรัฐบาล อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เทศบาลนครนนท์เป็นแห่งแรกที่นำร่องเรื่องนี้ โดยทราบว่ามีอีกกว่า 20 เทศบาล ที่เห็นด้วยและมีความพร้อมเช่นกัน

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า เทศบาลก็เหมือนเป็นรัฐบาล เป็นภาครัฐแบบหนึ่ง คล้ายเป็นกระเป๋าซ้าย กระเป๋าขวา

“มองแง่ดี ถือว่าเขาอยากมีส่วนร่วมสนับสนุนเพิ่มเติม แต่จะต้องคุยรายละเอียดที่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะจะมีประเด็นของกฎหมาย บทบาทหน้าที่ ภาระหน้าที่ และภาพรวมของประเทศควรเป็นอย่างไร ซึ่งคณะอนุกรรมการอำนวยการให้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มี นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการ สธ. เป็นประธาน จะมีการหารือร่วมกับนายกเทศบาลนครนนท์อีกครั้ง แต่เชื่อว่า เรื่องนี้ต้องหารือหลายมิติ ไปจนถึงข้อกฎหมาย ตอนนี้ยังไม่มีวัคซีนในประเทศไทย การนำเข้าส่วนใหญ่ต้องผ่านรัฐบาล หากเป็นกลไกตลาดก็จบ ใครหาซื้อได้ก็ซื้อ” นพ.โอภาส กล่าว