รีเซต

ยูเอ็นเตือนเมียนมารุนแรง อ้างกองทัพเคลื่อนพลเข้าย่างกุ้ง ชนเอ็นแอลดีเรียกปชช.ลงถนน

ยูเอ็นเตือนเมียนมารุนแรง อ้างกองทัพเคลื่อนพลเข้าย่างกุ้ง ชนเอ็นแอลดีเรียกปชช.ลงถนน
มติชน
17 กุมภาพันธ์ 2564 ( 10:28 )
94

นายทอม แอนดรูว์ ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ว่าด้วยเรื่องเมียนมา ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุรุนแรงขยายตัวขึ้นในเมียนมาในวันที่ 17 กุมภาพันธ์นี้ หลังสมาชิกพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (เอ็นแอลดี) และนักเคลื่อนไหวในเมียนมา ออกมาเรียกร้องให้ประชาชนเรือนล้านออกมาประท้วงในวันนี้

การออกมาแสดงท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวานนี้ นางออง ซาน ซูจี ผู้นำพรรคเอ็นแอลดี ถูกตั้งข้อหาละเมิดกฎหมายบริหารจัดการภัยพิบัติเพิ่มเติมอีกข้อหาหนึ่ง หลังจากที่ถูกข้อหาละเมิดกฎหมายนำเข้าและส่งออกเพราะครอบครองวอล์กกี้ทอล์กกี้

 

แอนดรูว์ระบุว่า เขาวิตกกังวลว่าสถานการณ์อาจผันแปรไปจนเกินที่จะควบคุม และเขากลัวว่าในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ มีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุรุนแรงในระดับใหญ่โตในเมียนมา มากกว่าที่เห็นกันมาตั้งแต่กองทัพยึดอำนาจเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์

แอนดรูว์อ้างด้วยว่า เขาได้รับรายงานว่าว่ามีการระดมกำลังทหารจากพื้นที่รอบนอกเข้าไปยังนครย่างกุ้ง ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาการเคลื่อนกำลังพลเช่นนี้มักจะเกิดขึ้นก่อนการสังหาร การสูญหาย หรือถูกควบคุมตัวของผู้คนจำนวนมาก

 

แถลงการณ์ของแอนดรูว์ระบุว่า เขารู้สึกหวาดกลัวเมื่อเห็น 2 พัฒนาการที่เกิดขึ้นพร้อมกัน คือการสนธิกำลังทหารและการเคลื่อนกำลังพลของกองทัพ ว่าอาจนำไปสู่วิกฤตการณ์อันตรายที่กองทัพจะก่ออาชญากรรมที่ร้ายแรงต่อประชาชนชาวเมียนมา

หลังจากที่นายพลจัตวาซอ มิน ตุน โฆษกสภาปฏิวัติเมียนมา ออกมาแถลงว่าซูจีถูกเพิ่มโทษอีกกระทงหนึ่ง กลุ่มต่อต้านรัฐประหารเมียนมา ซึ่งมีทั้งนักเคลื่อนไหวไปจนถึงสมาชิกพรรคเอ็นแอลดีได้ร่วมกับเรียกระดมผู้คนให้ออกมาแสดงพลังบนท้องถนนให้ถึงหลายล้านคน

 

ขิ่น แซนเดอร์ นักเคลื่อนไหวชาวเมียนมา โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กว่า “ออกมารวมตัวกันให้ได้หลายล้านคนเพื่อโค่นล้มเผด็จการ” ขณะที่นายจี โท สมาชิกอาวุโสของพรรคเอ็นแอลดี ซึ่งยังไม่ถูกจับกุมตัว ก็ออกมาเรียกร้องให้ผู้คนออกมาเดินขบวนร่วมกัน แสดงพลังของพวกเราในการต่อต้านรัฐบาลทหารที่ทำลายอนาคตของเยวชนและอนาคตของประเทศ

รายงานข่าวระบุว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ที่นครย่างกุ้ง ประชาชนนำรถมาปิดสะพานและออกมาแสดงพลังต่อต้านการยึดอำนาจโดยกองทัพเมียนมา ซึ่งต้องจับตาดูกันต่อไปว่าเหตุการณ์จะขยายวงจนกลายเป็นความรุนแรงอย่างที่หวั่นวิตกกันหรือไม่

ข่าวที่เกี่ยวข้อง