"คนละครึ่งพลัส" วันแรกใช้จ่ายยอดพุ่ง 752 ล้าน พร้อมเดินหน้าเฟส 2

วันนี้ ( 29 ต.ค. 68 )นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงผลการใช้จ่ายในวันแรกของโครงการ "คนละครึ่งพลัส" (29 ต.ค. 68) ว่าได้รับกระแสตอบรับจากประชาชนและร้านค้าอย่างท่วมท้น สร้างความปลื้มปิติแก่นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก
ยอดใช้จ่ายวันแรกทะลุ 752 ล้านบาท
ข้อมูลการใช้จ่าย ณ เวลา 15.00 น. ของวันแรก พบว่ามีผู้ใช้จ่ายผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" สำเร็จไปแล้วถึง 3.60 ล้านราย โดยมียอดใช้จ่ายรวมสูงกว่า 752.25 ล้านบาท แบ่งเป็นเงินที่รัฐบาลร่วมจ่าย 372.80 ล้านบาท และเงินที่ประชาชนจ่ายเอง 379.44 ล้านบาท ตัวเลขดังกล่าวสะท้อนถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่คึกคักในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ
นายกฯ ยืนยันเดินหน้า "เฟส 2" พร้อมสั่งปราบโกง
นายกรัฐมนตรีได้รับทราบรายงานความคืบหน้านี้แม้จะอยู่ระหว่างการเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 32 ณ เมืองคยองจู สาธารณรัฐเกาหลี โดยได้ฝากความมั่นใจไปยังประชาชนว่า รัฐบาลจะเดินหน้าสานต่อโครงการ "คนละครึ่งพลัส เฟส 2" อย่างแน่นอน
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำและกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามและดำเนินการกับ "กลโกง" ที่มิจฉาชีพและร้านค้าบางรายใช้ช่องทางออนไลน์โฆษณาเชิญชวนให้ประชาชนที่ได้รับสิทธินำวงเงินมา แลกเป็นเงินสด โดยให้ดำเนินการจับกุมและดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด
บทลงโทษทางกฎหมายต่อผู้ทุจริต
รัฐบาลได้ออกประกาศเตือนประชาชนและร้านค้าอย่างชัดเจนถึงความผิดทางอาญาจากการซื้อขายหรือแลกสิทธิเป็นเงินสดโดยไม่มีการซื้อขายสินค้าจริง โดยระบุว่า:
1. การนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์: ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
2. ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง: ทั้งผู้แลกและผู้รับแลกต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
นอกจากนี้ ผู้ที่ทุจริตจะต้องคืนเงินที่ได้รับจากรัฐบาลทั้งจำนวน และอาจถูกระงับสิทธิไม่ให้เข้าร่วมโครงการของรัฐบาลอื่น ๆ อีกด้วย ทั้งนี้ โครงการ "คนละครึ่งพลัส" เปิดให้ประชาชนใช้จ่ายได้ทุกวันจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 06.00 - 23.00 น.
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
