กรมอนามัย คาด เม.ย.ขยะติดเชื้อพุ่งกว่า 789 ตันต่อวัน ชี้ปชช.ยังกำจัดขยะผิดวิธี
วันนี้ (9 มี.ค.65) กรมอนามัยประชุมบริหารจัดการและแนวปฏิบัติในการจัดการ มูลฝอยติดเชื้อ ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดโควิด- 19 โดยมี นพ.อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย เป็นประธาน พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ด้านอนามัยสิ่งแวดล้อมและสุขาภิบาล
โดยพบว่าสถานการณ์ปริมาณมูลฝอยติดเชื้อมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่เพิ่มขึ้น โดยคาดการณ์ว่า จะมีปริมาณมูลฝอยติดเชื้อสูงสุดในช่วงเดือนเมษายน 2565 ประมาณ 789 ตันต่อวัน
ขณะที่ ภาพรวมระบบกำจัดมูลฝอยติดเชื้อมีอยู่ประมาณ 17 แห่ง และระบบกำจัดมูลฝอยติดเชื้อที่โรงพยาบาลกำจัดเอง มีศักยภาพอยู่ที่ ประมาณ 342 ตันต่อวัน
และล่าสุดได้มีระบบกำจัดเพิ่มเติมโรงงานอีก 11 แห่งศักยภาพการกำจัดอยู่ที่ 1,189 ตันต่อวัน ทำให้ภาพรวมของประเทศมีศักยภาพการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่า 1,531 ตันต่อวัน
สำหรับสถานการณ์ภาพรวมการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อของประเทศปี 2563-2565 ในช่วงที่มีการระบาดโควิด-19 ระลอก 1 สูงสุดอยู่ที่ 165 ตันต่อวัน ระลอก2-ใน ปี 2564 สุดสุดอยู่ ช่วงเดือนมีนาคม 168 ตันต่อวัน ระลอก3 ช่วงเดือนตุลาคม สูงสุด 440 ตันต่อวัน และการระบาดระลอก4 ปี2565 ช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ สูงสุดอยู่ที่ 330 ตันต่อวัน
ทั้งนี้ กรมอนามัยได้แนะนำประชาชน ให้ทำการคัดแยกขยะ เพื่อลดปริมาณมูลฝอยติดเชื้อ หากเป็นขยะมูลฝอยที่ไม่ได้ปนเปื้อนสารคัดหลั่ง สามารถเก็บรวบรวมทิ้งถังขยะกับขยะทั่วไปได้
ส่วนขยะที่ปนเปื้อนสารคัดหลั่ง เช่นหน้ากากอนามัย กระดาษทิชชู ภาชนะใส่อาหารและชุดตรวจ ATK ให้แยกจัดการใส่ถุงแยกทำสัญลักษณ์ เมื่อแยกทิ้งให้มัดปากถุงให้แน่น ใช้แอลกอฮอล์ 70% หรือสารฟอกขาว 0.5%
โดยใช้น้ำยาฟอกขาว ผสมน้ำ ในอัตตราส่วน 1:10 ฉีดพ่นบริเวณปากถุง ก่อนนำไปทิ้งยังจุดจัดเก็บ และในการจัดเก็บทางองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ปฏิบัติงานต้องจัดเก็บตามแนวทางที่กรมอนามัยให้แนวปฏิบัติไว้ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ.
ภาพจาก แฟ้มภาพ AFP