ภาษีลาภลอยคืออะไร? พื้นที่ไหนที่ต้องจ่าย? บ้าน-คอนโดฯ กระทบแค่ไหน!
"ภาษีลาภลอย" (Windfall Tax) “แนวคิดของร่างกฎหมายดังกล่าว ถือว่าเป็นกฎหมายที่มองไปในอนาคต ว่า เมื่อเมืองมีการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นระบบรถไฟฟ้า ทางด่วน เป็นต้น ทำให้ราคาที่ดินในบริเวณใกล้เคียงโครงการของรัฐ ปรับราคาขึ้น ก็ควรแบ่งผลประโยชน์ส่วนหนึ่งมาให้กับรัฐ” วันนี้ TrueID จะพาทุกท่านไปรู้จักกับภาษีดังกล่าว
กฎหมายภาษีลาภลอยคืออะไร ?
กฎหมายภาษีลาภลอย หรือ ร่าง พ.ร.บ.ภาษีการได้รับประโยชน์จากการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของรัฐ (Windfall Tax) มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความเป็นธรรมในระบบภาษีและสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาจากผู้ที่ได้รับประโยชน์จากโครงการลงทุนสาธารณูปโภคของรัฐ ที่ส่งผลให้ราคาที่ดินในบริเวณรัศมีโครงการสาธารณูปโภคปรับราคาสูงขึ้น
ใครบ้างที่ต้องเสียภาษีลาภลอย ?
สำหรับผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีนี้ จะเป็นทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล ที่มีที่ดินตั้งอยู่ในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตรจากตัวสถานีขึ้นลง ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ รถไฟฟ้าขนส่งมวลชน ท่าเรือ สนามบิน โครงการทางด่วนพิเศษ และโครงการอื่นๆ ที่จะกำหนดในกฎกระทรวง โดยภาษีตัวนี้ จะเก็บเฉพาะราคาที่ดินที่ปรับสูงขึ้น เนื่องจากผลของโครงการสาธารณูปโภค โดยหักตัวมูลค่าอาคารออกไป
ระบบการจัดเก็บ
การจัดเก็บภาษี จะแบ่งเป็น 2 ช่วง
- เก็บระหว่างดำเนินการก่อสร้าง โครงการพื้นฐานของรัฐ การซื้อขายที่ดินในช่วงนี้ จะถูกจัดเก็บภาษี windfall Tax ในทุกครั้งที่มีการซื้อขายเปลี่ยนมือ โดยเก็บภาษีเฉพาะมูลค่าที่ดิน ที่ปรับเพิ่มขึ้น โดยใช้ฐานราคาประเมินของกรมธนารักษ์ ณ วันที่ได้รับที่ดินแปลงนั้นมา กับราคาประเมินที่ดินในช่วงระหว่างก่อสร้างโครงการนั้น (ช่วงระหว่างการก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภค)
- ช่วงที่ก่อสร้างโครงการสาธารณูปโภคนั้นแล้วเสร็จ จะเก็บภาษีเพียงครั้งเดียว (one Time) ไม่ได้เก็บทุกครั้งที่เปลี่ยนมือ โดยเก็บภาษีจากมูลค่าที่ปรับเพิ่มขึ้น เฉพาะที่ดิน หรือห้องชุดเฉพาะส่วนที่ใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่มีมูลค่าสูงกว่า 50 ล้านบาทขึ้นไปเท่านั้น โดยกรมที่ดินเป็นผู้จัดเก็บ