รีเซต

รัฐชง จ่ายเงินเดือน 'คนละครึ่ง' กับนายจ้าง 7,500 บาท พยุงธุรกิจ พ้นวิกฤตโควิด

รัฐชง จ่ายเงินเดือน 'คนละครึ่ง' กับนายจ้าง 7,500 บาท พยุงธุรกิจ พ้นวิกฤตโควิด
ข่าวสด
18 มกราคม 2564 ( 16:43 )
101
รัฐชง จ่ายเงินเดือน 'คนละครึ่ง' กับนายจ้าง 7,500 บาท พยุงธุรกิจ พ้นวิกฤตโควิด

รมว.ท่องเที่ยว จ่อคุย รมว.แรงงาน จ่ายค่าจ้างเดือนละครึ่ง 7,500 บาท หวังช่วยเอกชนท่องเที่ยวทั้งระบบจ้างงานเอาไว้ ไม่ต้องปิดกิจการ พร้อมหาช่องใช้เงินมาอุดหนุน

 

วันนี้ (18 ม.ค.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยว และกีฬา เปิดเผยว่า สัปดาห์นี้จะหารือกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน เพื่อร่วมพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือแรงงานภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัส โควิด 19 เบื้องต้นรัฐบาลอาจนำแนวทางการร่วมจ่ายเงินค่าจ้าง (โค-เพย์) มาใช้ โดยรัฐบาลและผู้ประกอบธุรกิจจะร่วมกันจ่ายค่าจ้างให้พนักงานคนละครึ่ง ฝ่ายละ 7,500 บาทต่อเดือน เพื่อพยุงการจ้างงานเอาไว้ในระบบต่อไป หลังจากตอนนี้มีผู้ประกอบธุรกิจหลายรายได้รับความเดือดร้อนและอาจจำเป็นต้องปิดกิจการลงหากไม่มีแนวทางมาช่วยเหลือ

 

ทั้งนี้การพยุงการจ้างงานเอาไว้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งทำทันที โดยที่ไม่ต้องรอให้การระบาดของไวรัสโควิดจบลงก่อนแล้วค่อยมาทำ เพราะถ้ารอถึงตอนนั้นธุรกิจท่องเที่ยวหลายกลุ่ม ทั้งโรงแรม ห้องพัก บริษัททัวร์ ร้านอาหาร อาจต้องปิดกิจการลงไปอีกมาก ดังนั้นทุกหน่วยงานภาครัฐจึงจำเป็นต้องมาหาทางช่วยเหลือ โดยกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะรับหน้าที่ไปคุยกับกระทรวงแรงงาน เพื่อประสานงานเรื่องนี้ ซึ่งจากการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างไม่เป็นทางการในช่วงที่ผ่านมา ก็ได้รับการยืนยันว่ามีความเหมาะสม และต้องเร่งทำแม้ว่าจะใช่งบประมาณค่อนข้างสูง

 

สำหรับรูปแบบของการร่วมจ่ายเงินค่าจ้างรายเดือนนั้น จะกำหนดให้ช่วยเหลือครอบคลุมการจ่ายค่าจ้างสูงสุดรายละไม่เกิน 15,000 บาทต่อเดือน ซึ่งรัฐและผู้ประกอบธุรกิจจะช่วยกันจ่ายคนละครึ่ง แต่ระยะเวลาที่เหมาะสมนั้นเบื้องต้นยังไม่ได้ข้อสรุปว่า จะช่วยเหลือ 1 ปี หรือเป็นเวลากี่เดือน เพราะต้องพิจารณาวงเงินที่จะใช้ด้วย เช่นวงเงินของกองทุนประกันสังคม หรือขอใช้เงินจาก พ.ร.ก.กู้เงิน 1 ล้านล้านบาท ซึ่งหากใช้เงินในก้อนหลังก็ต้องหารือกับสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง

 

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ยังได้หารือกับ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รวม.คลัง เพื่อร่วมพิจารณาแนวทางช่วยเหลือภาคการท่องเที่ยวทั้งระบบด้วย โดยจากการหารือรมว.คลัง ก็เห็นด้วยกับข้อเสนอที่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ หลายเรื่อง เช่น การปรับปรุงการเข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟต์โลน ได้ง่ายมากขึ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องในการดำเนินงาน รวมทั้งการขยายระยะเวลาพักชำระเงินต้นและดอกเบี้ยให้กับผู้ประกอบธุรกิจที่เดือดร้อน และเสนอให้ยืดระยะเวลาการชำระภาษีประจำปีภาษี 63 ออกไปด้วย ซึ่งรมว.คลัง รับว่าจะไปพิจารณาแนวทางการช่วยเหลือทั้งหมดอีกครั้ง

 

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้มีการหารือกับทางภาคเอกชนการท่องเที่ยวจาก 5 สมาคมหลักทางด้านการท่องเที่ยว คือ สมาคมโรงแรมไทย สมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) และ สมาคมส่งเสริมการประชุมนานาชาติไทย เพื่อรับฟังปัญหาและรับฟังข้อเสนอการช่วยเหลือเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิดระลอกใหม่ โดยเสนอให้รัฐบาลช่วยเรื่องของการจ่ายค่าจ้างแบบ โค-เพย์ รวมทั้งการเสนอขอเรื่องการลดภาระค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะรวบรวมข้อเสนอยื่นให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง