รีเซต

อานิสงส์พายุ! ซีเคพาวเวอร์ ทำกำไรไตรมาส3กว่า 831ล้าน เอื้อรายได้ถึงปี64

อานิสงส์พายุ! ซีเคพาวเวอร์ ทำกำไรไตรมาส3กว่า 831ล้าน เอื้อรายได้ถึงปี64
มติชน
11 พฤศจิกายน 2563 ( 13:00 )
102

นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) “CKP” เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2563 พลิกกำไรตามคาด หลังไตรมาส 2/2563 รายได้ลดลงจากปริมาณน้ำที่ใช้ผลิตไฟฟ้าลดลงเพราะเป็นช่วงฤดูแล้ง โดยไตรมาส 3 มีรายได้รวม 2,131 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 129.5 ล้านบาท คิดเป็น 6.5% และกำไรสุทธิ 831.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 798 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ รายได้ที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/2563 มาจาก น้ำงึม 2 มีปริมาณการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น โดยมีปริมาณการขายไฟฟ้า 405.2 ล้านหน่วย เพิ่มขึ้น105.9 ล้านหน่วย หรือเพิ่มขึ้น 35.4% ส่วนปริมาณน้ำที่ไหลเข้าโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 เพิ่มจาก 2,220 ล้านลบ.ม. ในปี 2562 เป็น 2,386 ล้านลบ.ม. เพิ่มขึ้น7.5% ในส่วนของกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 3/2563 มาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี ที่มีการดำเนินงานเต็มไตรมาส ทำให้มีปริมาณการขายไฟฟ้ารวม 2,314 ล้านหน่วย คิดเป็นรายได้ 4,483 ล้านบาท โดยมีปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าเฉลี่ย 4,200 ล้านลบ.ม. ต่อวินาที ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของปีก่อนประมาณ 40%

 

ขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าบางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น ที่ 1 (BIC-1) และ 2 (BIC-2) ยังคงเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องตามปกติ เนื่องจากยังไม่มีแผนที่จะหยุดเดินเครื่องเพื่อซ่อมบำรุงใหญ่ในปีนี้ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ 9 แห่ง สามารถผลิตไฟฟ้าได้ตามเป้าเต็มกำลังการผลิตเช่นกัน

 

สำหรับรายได้ในช่วง 9 เดือนของปีนี้ มีรายได้รวม 5,724 ล้านบาท ลดลงจากช่วง 9 เดือนของปี 2562 ที่มีรายได้ 6,731 ล้านบาท ลดลง 1,007 ล้านบาท หรือลดลง15% สาเหตุหลักมาจากการประกาศจ่ายไฟฟ้าด้วยความระมัดระวังของโรงไฟฟ้าพลังน้ำน้ำงึม 2 ทำให้ครึ่งปีแรกของปี 2563 ขายไฟฟ้าได้น้อยกว่าครึ่งปีแรกของปี 2562 บวกกับค่าก๊าซของ BIC ช่วง 9 เดือนของ 2563 ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปี 2562 ประมาณ 7% แต่บริษัทฯ ยังสามารถทำกำไรสุทธิ 397 ล้านบาท เพิ่มขึ้น140 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 55%

 

สาเหตุมาจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในโรงไฟฟ้าไซยะบุรีที่ 231 ล้านบาท โดยโรงไฟฟ้าไซยะบุรีมีรายได้จากการขายไฟฟ้าช่วง 9 เดือนปี 2563 รวม 8,942 ล้านบาท คิดเป็นปริมาณการขายไฟฟ้า 4,654.4 ล้านหน่วย

 

“ตั้งแต่ปลายไตรมาส 2 มีพายุและฝนตกต่อเนื่องในลาว ทำให้ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าอ่างเก็บน้ำโรงไฟฟ้าพลังน้ำ น้ำงึม 2 มีปริมาณเพิ่มขึ้น ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงที่ใช้ผลิตไฟฟ้าสำหรับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ ไซยะบุรี อยู่ในระดับเพียงพอและเป็นที่น่าพอใจต่อการขายไฟฟ้าในช่วงเดือนแรกของไตรมาส 4 และคาดว่าสถานการณ์น้ำจะอยู่ในระดับที่น่าพอใจต่อเนื่องไปปี 2564 คาดว่าผลการดำเนินงานของบริษัทยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นายธนวัฒน์กล่าว

 

นายธนวัฒน์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้บริษัทเตรียมออกหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกันวงเงินไม่เกิน 4,000 ล้านบาท ในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อนำมาใช้ในการดำเนินงานและลงทุนโครงการใหม่ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจา โดยทริสเรทติ้งได้จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ดังกล่าวที่ระดับ “A-” แนวโน้มคงที่ ในขณะเดียวกันยังคงอันดับเครดิตองค์กรของ CKPower ที่ระดับ “A” แนวโน้ม คงที่ (Stable) ซึ่งทริสเรทติ้งชี้ว่า อันดับเครดิตของ CKPower สะท้อนผลงานในการพัฒนาและดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำขนาดใหญ่ และกระแสเงินสดรับที่คาดว่าจะได้จากสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ได้รับอันดับเครดิต “AAA/Stable”

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง