วันแรก ปชช.หลั่งไหลสักการะ"พระเขี้ยวแก้ว"
ประชาชนจำนวนมากหลั่งไหลเข้ากราบสักการะ พระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว วันแรกที่ท้องสนามหลวงเพื่อความเป็นสิริมงคล หลังรัฐบาลไทยได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ “พระเขี้ยวแก้ว” จากวัดหลิงกวง ประเทศจีน มาประดิษฐานที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว เพื่อความเป็นสิริมงคลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ณ ท้องสนามหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และในโอกาสครบรอบ 50 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ในปี 2568
การอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ พระเขี้ยวแก้ว มาประดิษฐานในไทยเป็นการชั่วคราว ในระหว่างวันที่ 5 ธ.ค.2567 ไปจนถึงวันที่ 14 ก.พ.2568 รวมระยะเวลา 73 วัน ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญและเป็นสิริมงคลอย่างยิ่ง เนื่องจากปัจจุบันมีพระเขี้ยวแก้วเพียง 2 องค์บนโลกเท่านั้น คือ “พระเขี้ยวแก้วเบื้องต่ำขวา” ประเทศศรีลังกา และ “พระเขี้ยวแก้วเบื้องบนซ้าย” ประเทศจีน ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลจีนได้เคยอนุญาตให้อัญเชิญพระเขี้ยวแก้วเบื้องบนซ้ายไปประดิษฐานยังประเทศต่าง ๆ รวม 6 ครั้ง โดยเมื่อปี พ.ศ.2545 พระเขี้ยวแก้วองค์นี้เคยถูกอัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราวครั้งแรกในประเทศไทย ที่ พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม เนื่องในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงเจริญพระชนมพรรษา 75 พรรษา 5 ธันวาคม 2545
นอกจากนี้ส่วนที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ยังได้จัดให้มีนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ประกอบด้วย 5 โซน ที่เล่าเรื่องราวพุทธประวัติอันยาวนานของพระพุทธศาสนา และความสัมพันธ์ไทยจีนที่มีมายาวนาน
สำหรับ พระบรมสารีริกธาตุ (พระเขี้ยวแก้ว) จะเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมสักการะ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ระหว่างวันพฤหัสบดี ที่ 5 ธ.ค.2567 ไปจนถึงวันศุกร์ที่ 14 ก.พ. 2568 ตั้งแต่เวลา 7.00 - 20.00 น.ของทุกวัน