รีเซต

CPANEL จ่อเซ็นงานเพิ่ม 52.77 ลบ. เตรียมลงเครื่องจักรใหม่ อัพเลเวลโรงงานเดิม

CPANEL จ่อเซ็นงานเพิ่ม 52.77 ลบ. เตรียมลงเครื่องจักรใหม่ อัพเลเวลโรงงานเดิม
ทันหุ้น
31 มีนาคม 2565 ( 10:36 )
77
CPANEL จ่อเซ็นงานเพิ่ม 52.77 ลบ. เตรียมลงเครื่องจักรใหม่ อัพเลเวลโรงงานเดิม

#CPANEL #ทันหุ้น - CPANEL เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 1/65 เติบโตดี จ่อเซ็นสัญญาโครงการแนวราบแนวสูง มูลค่ารวม 52.77 ล้านบาท ดัน Backlog 1,256.62 ล้านบาท มองภาพรวมอสังหาฯ ฟื้น ไม่หวั่นต้นทุน–เงินเฟ้อพุ่ง ไตรมาส 2/65 เตรียมลงเครื่องจักรใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพโรงงานเดิมเล็งขยายกำลังการผลิต 5-10%

 

นายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน)(CPANEL) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast) ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ทิศทางการดำเนินธุรกิจไตรมาส 1/65 แนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่อง โดยบริษัทอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญากับลูกค้าโครงการแนวราบแนวสูงเพิ่ม 3 ราย มูลค่ากว่า 52.77 ล้านบาท ซึ่งหากเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้วจะส่งผลให้บริษัทมีงานในมือ (Backlog) 1,256.62 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ บริษัทยังมีลูกค้าอีกหลายรายที่มีความสนใจใช้ Precast Concrete ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาอีกกว่า 7 ราย อีกทั้ง บริษัทมีงานที่จะส่งมอบให้ลูกค้า 15 ราย อาทิ โครงกา รNoble Gable, Noble Curve, Grand BritaniaBangna KM.35 ซึ่งบริษัทสามารถผลิตและส่งมอบงานให้ลูกค้าได้ทันได้ตามแผนที่วางไว้

 

สำหรับภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ปี 2565 คาดการณ์การเติบโตประมาณ 15-20% จากนโยบายภาครัฐการผ่อนคลายสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย(Loan-to-Value: LTV) โดยเฉพาะโครงการแนวราบ คาดว่าจะเติบโตมากขึ้น รองรับความต้องการลักษณะการทำงานแบบ Work From Home

 

“แม้ว่าภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะมีสัญญาณที่ดีขึ้น แต่ยังมีปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวัง อาทิ การระบาดของไวรัสโควิด-19 แรงกดดันเงินเฟ้อ ผลกระทบของสงครามและแนวโน้มต้นทุนการผลิตปรับตัวสูงขึ้น อย่างไรก็ตามด้วยลักษณะธุรกิจของ CPANEL ที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิต สามารถลดความผิดพลาดความสูญเสียในการผลิต และใช้แรงงานน้อย ประกอบกับบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนที่ดี ส่งผลให้ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิต และเงินเฟ้อในระดับต่ำ

 

อีกทั้ง ในมุมของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ยิ่งมีภาวะเงินเฟ้อเท่าไหร่ยิ่งจำเป็นต้องลดแรงงานเนื่องจากหากก่อสร้างได้รวดเร็ว จะทำให้ผลกระทบเรื่องเงินเฟ้อสั้นลงซึ่งทำให้ผู้ประกอบการหันมาเลือกใช้Precast Concrete มากขึ้น” นายชาคริตกล่าว

 

ขณะที่ ความคืบหน้าเกี่ยวกับการติดตั้งเครื่องจักรใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพโรงงานเดิมคาดว่าจะติดตั้งในช่วงไตรมาส 2/65 โดย CPANEL ถือเป็นเป็นรายแรกที่นำเทคโนโลยีนี้เข้ามาพัฒนาเพิ่มประสิทธิภาพระบบการผลิต สามารถผลิต Precast Concrete ได้รวดเร็วมากขึ้นและสามารถขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 5-10%

 

ด้านการลงทุนเครื่องจักรผลิต Precast Concrete เพื่อก่อสร้างโรงงานแห่งที่2หลังจากที่เดินทางไปดูเครื่องจักรที่ประเทศเยอรมันแล้ว ขณะนี้ อยู่ระหว่างเตรียมสรุปการสั่งซื้อ และคาดว่าจะสั่งเข้ามาติดตั้งในช่วงไตรมาส 2/66 หลังจากที่เริ่มก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 ในช่วงไตรมาส2/65 ตามแผนที่วางไว้

 

ส่วนผลประกอบการปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 312.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 221.15 ล้านบาทจำนวน 91.29 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 41.27% และมีกำไรสุทธิ 31.80 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 13.12 ล้านบาท จำนวน 18.68 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 142.38%

 

โดยรายได้ของบริษัทเติบโตถึง 40% มากกว่าเป้าหมายที่วางไว้ไม่ต่ำกว่า 35% เนื่องจากในปี 64 ลูกค้ามีคำสั่งซื้อกลับมาเป็นปกติหลังจากที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ในปี 63 และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงบริษัทมีการบริหารจัดการควบคุมต้นทุนการผลิตที่ดีขึ้น ส่งผลให้กำไรสุทธิปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง