ชาติตะวันตกเตือนรัสเซีย เจอผลสะท้อนกลับรุนแรง หากบุกยูเครน

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า สหรัฐอเมริกาและชาติพันธมิตรประสานเสียงเตือนรัสเซียว่าจะเผชิญผลร้ายแรงตามมา หากกำลังพลใดในหลายหมื่นคนของรัสเซียที่สั่งสมอยู่ตามแนวชายแดน บุกรุกรานเข้าไปในดินแดนยูเครน

โดยหลังเสร็จสิ้นการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี ฝรั่งเศส และ อังกฤษ ที่กรุงเบอร์ลิน ในเยอรมนี เมื่อวันที่ 20 มกราคม นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ตระเวนเดินสายทางการทูตเพื่อดับวิกฤตขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ได้แถลงเน้นย้ำว่า รัสเซียเทียบไม่ได้กับความเด็ดเดี่ยวของมหาอำนาจตะวันตก การปล่อยให้รัสเซียละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน จะกลายเป็นลากเราทั้งหมดกลับไปสู่ช่วงเวลาที่อันตรายและไม่มั่นคงมากขึ้น เมื่อทวีปนี้ถูกแบ่งแยกเป็นสองด้วยการข่มขู่คุกคามของสงครามเต็มรูปแบบที่ทำให้ทุกคนต่างเป็นกังวล

ด้านนางอันนาเลนา แบร์บ็อก รัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนี แสดงท่าทีเป็นหนึ่งเดียวกัน กล่าวว่า ตะวันตกจะไม่หลบเลี่ยงการดำเนินการใดๆ ที่แม้รวมถึงมาตรการที่อาจจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อตัวเราเองด้วยก็ตาม

โดยหลังเสร็จสิ้นการหารือกับชาติพันธมิตรในกรุงเบอร์ลิน จากนั้นนายบลิงเคน จะเดินทางต่อไปยังนครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อพบเจรจากับนายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย ในวันที่ 21 มกราคมตามเวลาท้องถิ่นต่อไป

ความหวั่นกลัวว่าวิกฤตความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน จะลุกลามกลายเป็นสงครามอุบัติขึ้นในยุโรปได้ ยังส่งผลให้นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวเตือนก่อนหน้านี้ว่า การเคลื่อนกำลังพลบุกยูเครนของรัสเซีย ย่อมจะก่อผลกระทบข้ามทวีป และจะเป็นหายนะสำหรับทั้งโลก

ด้านรัสเซียยืนยันว่าไม่มีแผนที่จะบุกยูเครน แต่ขณะเดียวกันก็ได้ยื่นข้อเรียกร้องไว้หลายประการ ที่รวมถึง ห้ามยูเครนเข้าร่วมเป็นสมาชิกใน องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ที่รัสเซียมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของตน ทั้งนี้เพื่อแลกกับการลดความขัดแย้งรุนแรง

แต่สหรัฐปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัสเซีย ขณะที่นายเยนส์ สตอลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโตกล่าวยืนยันในสัปดาห์นี้ว่า พันธมิตรนาโตจะไม่ยอมอ่อนข้อในหลักการของกลุ่ม ที่รวมถึงสิทธิของแต่ประเทศในการเลือกหนทางเดินของตนเอง

รัสเซียยังเพิ่มเดิมพันมากขึ้นด้วยการประกาศการซ้อมรบทางทะเล โดยระบุว่าจะเห็นการเคลื่อนกำลังของรัสเซียไปยังแอตแลนติก แปซิฟิก ขั้วโลกเหนือ และ เมดิเตอเรเนียน ทั้งกองเรือรบและกองเรือสนับสนุนมากกว่า 140 ลำ เครื่องบินอีกก่า 60 ลำ ยุทโธปกรณ์ 1,000 ชิ้น และกำลังพลราว 10,000 นาย โดยเมื่อวันที่ 19 มกราคมที่ผ่านมา รัสเซียยังได้เริ่มปฏิบัติการซ้อมรับกับเบลารุสแล้ว

ความเคลื่อนไหวของรัสเซียยังมีขึ้นท่ามกลางความโกรธเกรี้ยว หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ เตือนรัสเซียว่าจะต้องชดใช้ราคาแพงจากการเผชิญการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการเมือง หากรัสเซียบุกยูเครน