โจรงัดบ้าน อส.กลางวันแสกๆ เจ้าของกลับมาเจอ ตีมึน อ้างหิวน้ำ-พ่อตาเป็นตร.
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนที่5(อส.) อำเภอศีขรภูมิ (สี-ขอ-ระ-พูม) จ.สุรินทร์ ว่าได้มีคนร้ายกำลังเข้ามางัดประตูบ้านพักจึงได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจพร้อมด้วยกำลัง อส.จำนวน 10 กว่านาย เข้าไปตรวจสอบพบคนร้ายได้ใช้มีดอีโต้ ซึ่งวางไว้ที่โต๊ะอาหารจำนวน 1 ด้ามที่คนร้ายได้นำเข้าไปงัดประตูเพื่อที่จะเข้าไปภายในห้องบ้านพัก
จากการสอบถามทราบชื่อว่า นายกันต์ อายุ 41ปี ชาวจ.สุรินทร์ โดยได้บอกว่าวันเวลาดังกล่าว ตนเองได้ขับขี่ จยย.ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนเข้ามาจอดข้างหลังบ้านพักนายอำเภอ หลังจากนั้ัน ได้เดินเข้ามาที่บ้านพักที่กองร้อยอาสารักษาดินแดนและได้ใช้มีดอีโต้ที่วางอยู่ภายในโต๊ะอาหารเข้ามางัด
ในจังหวะที่กำลังงัดอยู่นั้นทางเจ้าหน้าที่กองร้อย อส.ได้ออกไปปฏิบัติงานจิตอาสาสำรวจพื้นที่ระดับน้ำประกอบกับช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ขับรถสัญจรไปมาและช่วยเหลือพี่น้องที่ได้รับผลกระทบจากพายุโนรูมาพบเข้าพอดี
ซึ่งบ้านพักดังกล่าวเป็นบ้านพักของ นายชลินพร อายุ 52 ปี ซึ่งเป็นอส.ปฏิบัติการที่กองร้อย ซึ่งนายชลินพร กล่าวว่า ตนเองกับทีมงานกองร้อยอส.ออกไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเนื่องจากน้ำท่วมพอกลับมาก็มองเห็นคนร้ายไม่สวมเสื้อกำลังงัดประตูอยู่จึงโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเพื่อนอส.เข้าร่วมจับกุมทันที
จาการสอบถามนายกันต์ซึ่งให้การวกไปวนมาบอกว่า ตนเองได้ขี่รถมาบอกว่าจะมาหาเพื่อนแต่ในระหว่างที่ขับรถมาก็รู้สึกหิวน้ำจึงถือโอกาสเข้ามาหาน้ำกินที่บ้านพักกองร้อยอาสารักษาดินแดนแต่ในระหว่างที่กำลังงัดอยู่นั้นได้มีเจ้าของห้องมาพบเจอพอดีจึงไม่ได้อะไรติดตัวไปและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจนำตัวส่งพร้อมกับตรวจปัสสาวะก็พบเป็นฉี่สีม่วงและค้นภายในกระเป๋าพบเงินสดจำนวน 3,700 บาท และเงินเศษสลึงและเงินบาทจำนวนหลายบาทอยู่ภายในรถ
ถึงอย่างไรก็ตามก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวมาที่ สภ.ศีขรภูมิ นายกันต์ได้พูดวกไปวนมาเหมือนกับคนบ้า อ้างว่าตนเองมีพ่อตาเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจบ้าง อ้างว่าตนเองได้เบิกเงินล่วงหน้าลงเรือมีเงินเหลือมาติดตัวไว้ ซึ่งการพูดจาวกไปวนมาดังกล่าว เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนยังไม่ปักใจเชื่อและกำลังสอบสวนขยายผล เพราะนายกันต์บอกว่าหิวน้ำแต่นายกันต์ทำไมมีเงินไม่ซื้อน้ำกิน แถมยังมีน้ำอัดลมชนิดหนึ่งวางอยู่หน้ารถ จยย.ที่ขี่มา คาดว่าเตรียมการมาล่วงหน้า จึงได้มอบให้ทางพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป