UBEปักฐานกาแฟนอก ตลาดใหญ่สหรัฐ-ยุโรป
ทันหุ้น - UBE ลุยผลิตกาแฟออแกนิค สปป.ลาว ส่งออกพุ่งเป้าตลาดใหญ่สหรัฐ-ยุโรป ประเดิม 700 ไร่ก่อนขยายสู่หมื่นไร่ใน 5 ปี แย้มมีศักยภาพนับแสนไร่ มาร์จิ้นสูงเกิน 30% จับตาโกยรายได้กาแฟปีหน้า 500 ล้านบาท แย้มผลงานไตรมาส 3-4 โตต่อเนื่อง อานิสงส์เปิดเมืองแห่เดินทางในเอทานอล และแอลกอฮอล์ โบรกชอบธุรกิจแป้งมาร์จิ้นสูง 40-50%โตดีเป้า 3 บาท
นายเดชพนต์ เลิศสุวรรณโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อุบล ไบโอ เอทานอล จำกัด (มหาชน) หรือ UBE เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าในการผลักดันธุรกิจในด้านเกษตรอินทรีย์ ผ่านบริษัท อุบลไบโอเกษตร จํากัด (UBA) ล่าสุดได้เข้าไปดำเนินการ ปลูก “กาแฟออแกนิคแท้ 100%” ที่สาละวัน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวในเริ่มต้นที่ 700ไร่ จะได้ผลผลิตประมาณ 200 ตัน โดยคาดว่าจะเริ่มสร้างรายได้ให้แก่บริษัทในส่วนของกาแฟออแกนิคปี 2565ที่ 45 ล้านบาท
ทั้งนี้ในส่วนของกาแฟออแกนิคที่ปลูกจากสาละวันจะแตกต่างจากกาแฟทั่วไป มีความเข้มข้นของรสชาติ ความหวาน นุ่ม ชุ่มฉ่ำ และกลิ่นหอมแบบ Roasted Walnut, Dark Chocolate เทคนิคการคั่วพิเศษที่ดึงเสน่ห์ของกาแฟออแกนิคออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ การเพาะปลูกบนพื้นที่ราบสูงที่อุดมด้วยแร่ธาตุจากดินภูเขาไฟ แหล่งน้ำสะอาด อากาศบริสุทธิ์ บริษัทมีการทําเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) กับ เกษตรกรในพื้นที่
*พุ่งเป้าตลาดใหญ่
ส่วนกลุ่มลูกค้าจะเน้นตลาดที่มีการนำเข้ากาแฟออแกนิคขนาดใหญ่ ได้แก่ สหรัฐอเมริกาปริมาณตลาดประมาณ 8 หมื่นตัน และยุโรปมีปริมาณกาแฟที่ 1.3แสนตัน อีกทั้งกาแฟออแกนิคจากสาละวันมีศักยภาพในการแข่งขันสูงเมื่อเทียบกับประเทศผู้ผลิตรายอื่น ทั้งยังพัฒนาเป็น Premium Organic ไปยังประเทศเป้าหมายได้ด้วย
การที่บริษัทเลือกประเทศลาวเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ของการเพาะปลูกกาแฟออแกนิค นับว่าเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กาแฟและโอกาสในการต่อยอดทางธุรกิจที่ดีในอนาคต แต่ทั้งนี้บริษัทก็มีการจำหน่ายกาแฟที่เป็นแบบดั้งเดิมด้วย ทำให้คาดว่าปี 2565รายได้จากธุรกิจกาแฟจะทำได้ 500 ล้านบาท
พร้อมกันนี้บริษัทยังวางแผนขยายพื้นที่ปลูกเป็น 1 หมื่นไร่ ภายในระยะเวลา 5 ปี คาดว่าจะได้ผลผลิตที่ 2.5 หมื่นตัน หรือ 1ไร่ จะได้ผลผลิตที่ 2.5 ตัน แต่ทั้งนี้ในลาวมีศักยภาพขยายได้ถึงระดับแสนไร่ ซึ่งจะสร้างมูลค่าการเติบโตให้แก่บริษัทต่อไป เพราะธุรกิจจำหน่ายกาแฟมีอัตราการขั้นต้นกว่า 30 % ธุรกิจดังกล่าวจะเติบโตต่อเนื่องใน 5 ปี สัดส่วนรายได้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นมาที่ 5-10% บริษัทยังจะเดินหน้าแผนการการลงทุนในโรงสีเชอร์รี่กาแฟและโรงคั่วกาแฟออแกนิค คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 100 ล้านบาท ภายในปี 2565
*งบไตรมาส 3-4 ดีต่อเนื่อง
สำหรับแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 3/2564ยังดีต่อเนื่อง ถึงช่วงไตรมาส 4/2564จากปริมาณขายเอทานอลอุตสาหกรรมเติบโตได้ในระดับที่ดี จากการเปิดเมืองทำให้เกิดการคมนาคม รวมไปถึงร้านอาหารต่างๆ ต้องมีบริการด้านสาธารณสุข ทั้งการใช้สเปรย์แอลกอฮอล์ หนุนปริมาณขายเอทานอลดีต่อเนื่อง ขณะที่ในส่วนธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง ความต้องการแป้งมันสำปะหลังยังดี ทั้งลูกค้าในสหรัฐอเมริกา จีน ยุโรป ดั้งนั้นปีนี้บริษัทเชื่อว่ารายได้จะสามารถเติบโตได้ 40-50%จากปีก่อน หรือทำได้ราว 6,200 ล้านบาท และคาดว่าปีหน้ารายได้จะทำได้ถึงระดับ 7,000ล้านบาท
ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุถึง UBE ว่า คาดกำไรไตรมาส 3/2564 สถิติใหม่ที่ 95 ล้านบาท เติบโต 39% จากไตรมาสก่อน และจากขาดทุน 4 ล้านบาท ปีที่แล้ว จากการดำเนินงานธุรกิจเอทานอลและแป้งมันแข็งแกร่งคาดปริมาณขายเอทานอลเพื่อเชื้อเพลิงเติบโตเป็น 33 ล้านลิตร ในไตรมาส 3/2564, เติบโต 18% จากไตรมาสก่อน ธุรกิจแป้งของ UBE จะเริ่มดำเนินงานเชิงพาณิชย์ในไตรมาส 4/2564 โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น 40%สำหรับแป้งแบบดั้งเดิมและ 50% แป้งออแกนิคเนื่องจากเป็นแป้งไม่มีกลูเตน คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 3.0 บาท