รีเซต

“ออลล์ อินสไปร์“ ลดเสี่ยงอสังหาฯ มุ่งสู่ ”โฮลดิ้ง คอมพานี” รับบริหารที่ดิน-ติดตามหนี้

“ออลล์ อินสไปร์“ ลดเสี่ยงอสังหาฯ มุ่งสู่ ”โฮลดิ้ง คอมพานี” รับบริหารที่ดิน-ติดตามหนี้
มติชน
11 พฤษภาคม 2565 ( 14:46 )
62
“ออลล์ อินสไปร์“ ลดเสี่ยงอสังหาฯ มุ่งสู่ ”โฮลดิ้ง คอมพานี” รับบริหารที่ดิน-ติดตามหนี้

วันที่ 11 พฤษภาคม นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทได้ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญเพื่อนำออลล์ อินสไปร์ ไปสู่ยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด “All New Era” เพื่อมองหาธุรกิจใหม่เป็นโฮลดิ้ง คอมพานี ประคองธุรกิจให้ดำเนินงานต่อไปได้และลดความเสี่ยงพึ่งพิงรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเดียว รองรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งบริษัทตั้งเป้า 3 ปีจะมีรายได้ 3 หมื่นล้านบาทจึงต้องหาธุรกิจมาเทคออกให้รับรู้รายได้เร็วและเทิร์นอะราวด์ได้

 

“ปัจจุบันการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเดียวการแข่งขันสูง ต้องพึ่งลูกค้าอย่างเดียว การเปิดโครงการเยอะ ทำพรีเซลได้เยอะ ไม่ได้หมายความว่าธุรกิจจะมีกำไรตามที่ตั้งไว้ เราจึงศึกษาการเป็นโฮลดิ้ง คอมพานีและเกาะธุรกิจเป็นเมกะเทรนด์ “ นายธนากรกล่าว

 

นายธนากรกล่าวว่า โดยธุรกิจใหมาประกอบด้วย 3 ธุรกิจ 1. ธุรกิจบริหารสินทรัพย์  Assets Management (AMC) จัดตั้งบริษัทใหม่พร้อมจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงควบรวมกิจการและพร้อมเข้าประมูลกับสถาบันการเงิน ซึ่งบริษัทเก่งในการเลือกซื้อสินทรัพย์และที่ดิน เป็นธุรกิจมีกำไร 70-80% เพราะซื้อที่มาราคาถูกแต่ขายแพง และแปลงไหนทำเลมีศักยภาพสามารถนำมาพัฒนาได้กับพันธมิตรของบริษัท 2. ธุรกิจบริหารหนี้สิน Debt Management เข้าซื้อหนี้เสียมาบริหาร ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ อาทิ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต หรือหนี้อื่นๆ และมีแผนร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยหนี้ที่จะซื้อจะไม่เกิน 3 ปี 3. ธุรกิจคาร์บอนเครดิต Carbon Credits โดยร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก ให้บริการ One Stop Service ซื้อ ขาย พัฒนา คาร์บอนเครดิต ผ่านบล็อกเชน รายแรกของประเทศไทย

 

นายธนากรกล่าวว่า หลังปรับโครงสร้างธุรกิจทำให้สัดส่วนธุรกิจของบริษัทในปี 2565 ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ มีสัดส่วน 30% ธุรกิจบริหารหนี้สิน  มีสัดส่วน 30% ธุรกิจคาร์บอนเครดิต มีสัดส่วน 30% และ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ มีสัดส่วน 10% ทั้งนี้การปรับโครงสร้างธุรกิจจะทำให้บริษัทมีพอร์ตธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น ช่วยกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ และการตั้งเป้าเทิร์นอะราวด์ ให้ธุรกิจกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น รวมถึงสามารถปรับตัวและรับมือปัจจัยภายนอกได้เหมาะสมกับแต่ละประเภทธุรกิจมากขึ้น

 

“การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ เป็นการเปลี่ยนแปลงเกือบ 70%ของบริษัท และจะเป็นก้าวสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน มั่นใจทั้ง 3 ธุรกิจ จะสร้างรายได้และกำไรในอัตราผลตอบแทนที่สูงได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเสริมสร้างศักยภาพในการเติบโตของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต” นายธนากรกล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง