รีเซต

นักวิชาการเผยเลือกตั้งนายก อบจ.โคราช สู้กันเดือด คาดเงินสะพัดกว่า 3,000 ล้านบาท

นักวิชาการเผยเลือกตั้งนายก อบจ.โคราช สู้กันเดือด คาดเงินสะพัดกว่า 3,000 ล้านบาท
มติชน
1 พฤศจิกายน 2563 ( 14:33 )
145

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ อดีตเลขาธิการหอการค้าภาคอีสาน และนักวิชาการอิสระโคราช ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงการเลือกตั้ง นายก อบจ. และ ส.อบจ.นครราชสีมา ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค. 2563 นี้ว่า ในการเลือกตั้ง นายก อบจ.นครราชสีมาครั้งนี้ มีผู้ให้ความสนใจลงสมัครหลายราย เนื่องจาก อบจ.นครราชสีมา มีงบประมาณบริหารปีละกว่า 4,000 ล้านบาท หากรวมวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี ก็ประมาณสูงถึง 12,000 ล้านบาทเลยทีเดียว

“ดังนั้น จึงคาดว่าจะมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือดแน่นอน โดยผลคะแนนที่คาดว่าจะชนะการเลือกตั้งได้นั้น ต้องได้ไม่น้อยกว่า 500,000 คะแนน หากมีการใช้เม็ดเงินเพื่อซื้อเสียง คนละ 1,000 บาท ก็คาดว่าจะต้องใช้เงินสูงถึง 500 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่พฤติกรรมของประชาชนทุกวันนี้ เปลี่ยนไป การจะซื้อเสียงด้วยเงินเท่านี้อาจจะยังไม่จูงใจมากนัก เพราะทุกวันนี้ค่าแรงขั้นต่ำก็สูงขึ้น อีกทั้งยังมีนโยบายของรัฐบาลแจกเงิน 3,000 บาทบ้าง 15,000 บาทบ้าง ก็ทำให้เกิดการเปรียบเทียบ ดังนั้น จึงอาจจะต้องมีการใช้เงินซื้อเสียงสูงถึงคนละ 2,000 บาท หรือผู้สมัครแต่ละคนใช้เงินกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อที่จะให้ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง นายก อบจ.ครั้งนี้”

“ถ้ามีผู้สมัครนายก อบจ. 3-4 คน อัดฉีดเงินสู้กันอย่างนี้ ก็คาดว่าจะมีเงินสะพัดกว่า 3,000 ล้านบาทเลยทีเดียว ซึ่งที่ผ่านมาเราต้องยอมรับว่า สิ่งที่จะชี้แพ้ ชนะ คือเม็ดเงินในการซื้อเสียงแน่นอน ดังนั้นจึงเกิดเหตุการณ์คืนหมาหอน ที่จะมีการอัดฉีดเม็ดเงินกันมากในคืนสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้งให้เห็นกันเป็นประจำ”

“ซึ่งตนเองก็รู้สึกเป็นห่วงเหมือนกันว่า หากเป็นเช่นนี้ก็เข้าลักษณะการเมืองแบบนายทุน ที่มีการใช้เงินมหาศาลลงทุนไปแล้ว ก็ต้องหวังที่จะเข้ามากอบโกยเพื่อให้ได้กำไรจากการลงทุนครั้งนี้ ดังนั้นประชาชนจะต้องคิดให้รอบคอบก่อนเลือก ขณะเดียวกันในส่วนของ กกต.ก็จะต้องทำงานอย่างจริงจัง ไม่ใช่จะเน้นรณรงค์ให้คนออกมาเลือกตั้งมากๆ เพียงอย่างเดียวแล้ว ควรที่จะรณรงค์เรื่องการมีจิตสำนึกไม่ซื้อสิทธิ์ขายเสียงด้วย และต้องเอาจริงกับการจับคนซื้อสิทธิ์ ขายเสียง มาดำเนินคดีให้ได้”

“แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การเมืองทุกวันนี้อะไรก็เกิดขึ้นได้ ดังจะมีให้เห็นจากการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา มี ส.ส.ของพรรคการเมืองใหญ่ สอบตกเสียตำแหน่งแชมป์ให้กับผู้สมัคร ส.ส.จากพรรคการเมืองใหม่ไปหลายคนแล้ว ดังนั้นอย่าหลงระเริงว่ามีเงินมาก หรือมีพรรคการเมืองใหญ่หนุนหลังจะชนะเสมอไป” นายทวิสันต์กล่าว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง