รีเซต

จับมือแลกอะไรบ้าง? เปิดรายละเอียด "สหรัฐฯ-ไทย" ดีลลงทุน-การค้าครั้งใหญ่ 2 หมื่นล้านเหรียญ

จับมือแลกอะไรบ้าง? เปิดรายละเอียด "สหรัฐฯ-ไทย" ดีลลงทุน-การค้าครั้งใหญ่ 2 หมื่นล้านเหรียญ
TNN ช่อง16
27 ตุลาคม 2568 ( 13:38 )
17

เปิดรายละเอียดข้อตกลงระหว่าง “สหรัฐฯ–ไทย” ไทยลดภาษี 99% สหรัฐคงภาษี 19% จับมือลงทุน-การค้า กว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ 


ทำเนียบขาว (The White House) ได้เปิดเผยรายละเอียด เอกสาร “Joint Statement on a Framework for a United States–Thailand Agreement on Reciprocal Trade” หรือว่าด้วยกรอบข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างสหรัฐอเมริกาและราชอาณาจักรไทย โดยเผยแพร่เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา มีเนื้อหาดังนี้


สหรัฐอเมริกา และราชอาณาจักรไทย เห็นพ้องร่วมกันในกรอบข้อตกลงว่าด้วยการค้าต่างตอบแทน (Framework for an Agreement on Reciprocal Trade) เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจทวิภาคี ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกของทั้งสองประเทศเข้าถึงตลาดของอีกฝ่ายได้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน


ข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนฉบับนี้จะต่อยอดจากความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศ ได้แก่

-สนธิสัญญาไมตรีและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย–สหรัฐ (U.S.–Thailand Treaty of Amity and Economic Relations) ที่ลงนามในปี 1966 และ

-กรอบความตกลงด้านการค้าและการลงทุนไทย–สหรัฐฯ (U.S.–Thailand Trade and Investment Framework Agreement) ที่ลงนามในปี 2002


ประเด็นสำคัญของข้อตกลงการค้าต่างตอบแทน

1. การลดภาษีศุลกากร

-ไทยจะยกเลิกอุปสรรคทางภาษี (tariff barriers) ประมาณ 99% ของสินค้าทั้งหมด ครอบคลุมทั้งสินค้าอุตสาหกรรม อาหาร และสินค้าเกษตรจากสหรัฐ

-สหรัฐฯจะยังคงอัตราภาษีตอบโต้ (reciprocal tariffs) สำหรับสินค้าที่มีถิ่นกำเนิดจากไทยไว้ที่ 19% ตามคำสั่งฝ่ายบริหาร (Executive Order 14257 ลงวันที่ 2 เมษายน 2568 และที่แก้ไขเพิ่มเติม) พร้อมทั้งจะระบุสินค้าบางรายการใน “ภาคผนวก III” ของคำสั่งฝ่ายบริหาร 14346 (ลงวันที่ 5 กันยายน 2568 เรื่อง Potential Tariff Adjustments for Aligned Partners) เพื่อให้ได้รับ อัตราภาษีตอบโต้ 0%


2. การขจัดอุปสรรคที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Barriers)

สหรัฐฯและไทยจะร่วมมือกันแก้ไขอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี โดยไทยให้คำมั่นว่าจะดำเนินการดังนี้

-ยอมรับรถยนต์ที่ผลิตตามมาตรฐานความปลอดภัยและการปล่อยมลพิษของสหรัฐฯ

-ยอมรับใบรับรองจากสำนักงานอาหารและยา (FDA) ของสหรัฐ รวมถึงใบอนุญาตการตลาดก่อนหน้า (prior marketing authorizations) สำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์และผลิตภัณฑ์ยาว่าเพียงพอต่อข้อกำหนดของไทย

-ออกใบอนุญาตนำเข้าเอทานอลเพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิง (ethanol for fuel) จากสหรัฐฯ

-แก้ไขกฎหมายศุลกากรของไทยเพื่อยกเลิกระบบรางวัลเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ผูกกับค่าปรับและการละเมิดกฎหมายศุลกากร

-นำแนวปฏิบัติด้านกฎระเบียบที่ดี (good regulatory practices) มาใช้และบังคับใช้จริง


3. การเปิดตลาดสินค้าเกษตรและอาหาร

ไทยจะดำเนินการแก้ไขและป้องกันอุปสรรคต่อสินค้าเกษตรและอาหารของสหรัฐฯ เช่น

-เร่งให้มีการเข้าถึงตลาดสำหรับเนื้อและสัตว์ปีกที่ผ่านการรับรองจาก FSIS (Food Safety and Inspection Service) ของสหรัฐ

-กำหนดมาตรการด้านสุขอนามัยและพืชอนามัย (SPS) ให้เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์และการประเมินความเสี่ยง โดยเฉพาะสินค้าประเภทธัญพืชแห้ง (เช่น DDGS – dried distiller grains with solubles)

-ยอมรับใบรับรองจากหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐตามที่ตกลงไว้ในปัจจุบัน


4. มาตรฐานแรงงาน

ทั้งสองประเทศจะร่วมกันกำหนดข้อผูกพันในการคุ้มครองสิทธิแรงงานที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดย

-ไทยจะปรับปรุงกฎหมายให้ แรงงานมีสิทธิเสรีภาพในการรวมกลุ่มและเจรจาต่อรองได้อย่างสมบูรณ์

-เสริมสร้างการบังคับใช้กฎหมายแรงงาน โดยเฉพาะในภาคส่วนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการใช้แรงงานบังคับหรือแรงงานเด็ก


5. มาตรฐานสิ่งแวดล้อม

ไทยให้คำมั่นว่าจะคงไว้และยกระดับมาตรฐานการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม รวมถึง

-ดำเนินมาตรการต่อต้านการค้าผลิตภัณฑ์ไม้ที่ตัดอย่างผิดกฎหมาย

-สนับสนุนเศรษฐกิจที่ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ

-ยอมรับและดำเนินการตามความตกลงของ WTO ว่าด้วยการอุดหนุนภาคประมง (Agreement on Fisheries Subsidies)

-ปราบปรามการทำประมงผิดกฎหมาย (IUU Fishing) และการค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย



6. ทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property)

ทั้งสองประเทศจะสรุปพันธกรณีในด้านทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงเรื่องสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (geographical indications) โดยไทยจะดำเนินการ

-แก้ไขปัญหาการละเมิดเครื่องหมายการค้าและลิขสิทธิ์

-จัดการกับองค์กรบริหารสิทธิรวม (collective management organizations) ที่ไม่โปร่งใส

-ป้องกันการหลีกเลี่ยงมาตรการป้องกันทางเทคโนโลยี

-แก้ไขปัญหาความล่าช้าในการจดสิทธิบัตร


7. การค้าและบริการดิจิทัล

โดยไทยให้คำมั่นว่าจะ

-ไม่เก็บภาษีบริการดิจิทัล (Digital Services Tax) หรือใช้มาตรการที่เลือกปฏิบัติต่อบริการและผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของสหรัฐฯ

-อนุญาตให้มีการถ่ายโอนข้อมูลอย่างเสรีข้ามพรมแดนที่เชื่อถือได้ เพื่อประโยชน์ทางธุรกิจ

-สนับสนุนการคงการระงับการเก็บภาษีศุลกากรสำหรับการส่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ (moratorium on customs duties on electronic transmissions) ภายใต้ WTO

-ไม่กำหนดโควตาฉายภาพยนตร์(screen quotas) ในประเทศ

-ผ่อนคลายข้อจำกัดการถือครองหุ้นของนักลงทุนสหรัฐในภาคโทรคมนาคมของไทย

-ยกเลิกข้อกำหนดการประมวลผลธุรกรรมในประเทศ สำหรับธุรกรรมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ภายในประเทศของบัตรเดบิตที่ออกในไทย


8. รัฐวิสาหกิจและการบิดเบือนทางการค้า

ทั้งสองประเทศจะร่วมกันแก้ไขปัญหาพฤติกรรมของ รัฐวิสาหกิจ (State-Owned Enterprises) ที่ทำให้เกิดความบิดเบือนทางการค้า


9. ความมั่นคงทางเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทาน

สหรัฐฯและไทยจะเสริมสร้างความร่วมมือด้าน เศรษฐกิจและความมั่นคงระดับชาติ เพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทานและสนับสนุนนวัตกรรม โดยจะดำเนินการร่วมกันเพื่อ

-แก้ไขพฤติกรรมทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของประเทศที่สาม

-ร่วมมือด้าน การควบคุมการส่งออก (export controls)

-รักษาความมั่นคงในการลงทุน (investment security)

-ป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี (duty evasion)


10. ข้อตกลงเชิงพาณิชย์ที่จะเกิดขึ้นระหว่างภาคเอกชนไทย–สหรัฐฯ

ทั้งสองฝ่ายรับทราบถึง ดีลทางการค้าขนาดใหญ่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ได้แก่

-การจัดซื้อสินค้าเกษตร เช่น ข้าวโพดอาหารสัตว์ กากถั่วเหลือง และ DDGS (ผลพลอยได้จากกระบวนการผลิตเอทานอล) มูลค่าประมาณ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

-การจัดซื้อผลิตภัณฑ์พลังงาน เช่น LNG, น้ำมันดิบ และเอเทน (ethane) มูลค่าประมาณ 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี

-การจัดซื้อเครื่องบินสหรัฐฯ จำนวน 80 ลำ มูลค่ารวม 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ


11. ขั้นตอนต่อไป

ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ทั้งสองประเทศจะเจรจาและสรุปข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนฉบับสมบูรณ์ และเตรียมเอกสารเพื่อการลงนามอย่างเป็นทางการ รวมถึงดำเนินกระบวนการภายในประเทศเพื่อให้ข้อตกลงมีผลบังคับใช้



ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง