ป.ป.ส. เปิดข้อมูลผู้เสพ 32,000 คน เสี่ยงเป็นอันตรายสังคม - เร่งบำบัดแก้ไข

วันนี้ ( 13 ก.พ. 67 )พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือ  ป.ป.ส. พร้อมด้วยพล.ต.ท.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด แถลงผลปฏิบัติการลดความรุนแรงของปัญหายาเสพติดระยะ 1 ปี ห้วงวันที่  1 ธ.ค. 66 - 13 ก.พ. 67 ทั้งการปราบปรามยาเสพติดนักค้ารายย่อยที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่อย่างต่อเนื่อง การปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ความร่วมมือระหว่างประเทศที่เดินหน้าจับกุมผู้ต้องหาหลบหนีหมายจับและเริ่มส่งผลต่อเส้นทางการขนส่งยาเสพติด รวมถึงการนำผู้ป่วยที่จิตตเวชเข้ารักษาที่ใกล้ดำเนินการตามเป้าหมายแล้วเสร็จ

พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ ระบุว่า ขณะนี้มีตัวเลขผู้เสพของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่ประมาณ 530,000 คน ในจำนวนนี้เป็นกลุ่มสีแดง ซึ่งเป็นกลุ่มที่เป็นอันตรายต่อสังคมถึง 32,000 คน นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล คือ นำผู้เสพ 32,000 คนนี้ เข้ามาสู่การบำบัดให้ได้ 

ในส่วนของการปราบปรามยาเสพติดป.ป.ส.ได้ร่วมกับตำรวจดำเนินการจับกุมอย่างต่อเนื่อง จากข้อมูลในปีงบประมาณ 2564 ถึงล่าสุดมกราคม 2567 มีการจับกุมทุกข้อหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งสิ้นกว่า 827,000 คดี 

ในส่วนประเด็นการครอบครองยาเสพติดที่กฎหมายให้ครอบครองยาบ้าไม่เกิน 5 เม็ดเป็นผู้เสพนั้น ยืนยันว่า ไม่ว่าจะพบของกลางยาเสพติดจำนวนกี่เม็ด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพิจารณาจากพฤติกรรมและรายงานการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ด้วย การมี 1-2 เม็ดแล้วจะอ้างว่ามีไว้เพื่อเสพ แต่เจ้าหน้าที่สืบสวนพบมีพฤติการณ์เป็นผู้ขายก็ต้องได้รับโทษ 

ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวเป็นมติร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อวางหลักเกณฑ์ในการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด เพื่อนำผู้ป่วยเข้าบำบัดรักษาตามความสมัครใจของผู้นั้น ถ้าไม่สมัครใจรับการบำบัด ก็จะถูกดำเนินคดีข้อหา “ครอบครองเพื่อเสพ” ตาม มาตรา 164 ซึ่งมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่หากพิสูจน์ได้ว่ามีพฤติการณ์ที่เป็นการครอบครองเพื่อขาย ไม่ว่าจะกี่เม็ด ต้องถูกดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมายฐานเป็นผู้ค้า

ภาพจาก: AFP