"พายุน้ำแข็ง"ถล่มสหรัฐฯ เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 1,400 เที่ยว
"พายุน้ำแข็ง" ถล่มภาคใต้และภาคกลางสหรัฐฯ เกือบ 40 ล้านคนตกอยู่ใต้คำเตือนภัยหนาว ยกเลิกเที่ยวบินกว่า 1,400 เที่ยว มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย
ชาวอเมริกันเกือบ 40 ล้านคนในภาคใต้และภาคกลางของสหรัฐฯ อยู่ใต้ประกาศเตือนภัยฤดูหนาวในระดับต่างๆกัน ตั้งแต่รัฐเทนเนสซี ไปจนถึงรัฐเท็กซัส หลังพายุฤดูหนาวทำให้เกิดฝนเยือกแข็ง (freezing rain) ฝนน้ำแข็ง (sleet) และสภาพอากาศหนาวจัด เข้าปกคลุมหลายภูมิภาคในสหรัฐฯ คาดว่าจะอยู่จนถึงกลางสัปดาห์นี้ตามเวลาในสหรัฐฯ โดยมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 คนในรัฐเท็กซัส จากอุบัติเหตุรถชนกันหลายครั้ง ที่เกิดจากถนนลื่นเนื่องจากพายุน้ำแข็ง
ในเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี เมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) สภาพถนนถูกปกคลุมเต็มไปด้วยน้ำแข็งหลังถูกพายุน้ำแข็งถล่ม เมมฟิสได้ประกาศเตือนภัยพายุน้ำแข็งมาตั้งแต่วันจันทร์ (30 ม.ค.) และจะมีผลไปอีก 72 ชั่วโมง ถนนหลายสายในเมืองนี้ อยู่ในสภาพ ที่เรียกว่า "black ice" หมายถึงมีน้ำแข็งเคลือบพื้นผิวการจราจร ทำให้ถนนลื่นมาก เป็นอันตรายต่อรถที่แล่นไปมา
ส่วนเมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส ก็อยู่ในสภาพไม่ต่างจากเมมฟิส หลังพายุน้ำแข็งถล่ม สภาพถนนลื่นมากเป็นอันตราย เนื่องจากถูกเคลือนไปด้วยน้ำแข็งเป็นชั้นบาง ๆ
โดยพยากรณ์อากาศเตือนว่า จะเกิดน้ำแข็งสะสมตัวหนาครึ่งนิ้วตามถนนต่าง ๆ ในหลายเมือง รวมถึงเมมฟิส ดัลลัส ออสติน และเมืองลิตเติลร็อค
เที่ยวบินถูกยกเลิกมากกว่า 1,450 เที่ยวที่สนามบินหลายแห่ง โดยสนามบินในรัฐเท็กซัสได้รับผลกระทบหนักสุด โรงเรียนทั่วเท็กซิสปิดล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนพายุเข้า ไฟฟ้าดับในบ้านเรือนประชาชนกว่า 15,200 หลังในเท็กซัส
ด้านสำนักบริการอากาศแห่งชาติสหรัฐฯ หรือ NWS เตือนว่า อุณหภูมิเมื่อลมหนาวมาสัมผัสผิว จะทำให้รู้สึกหนาวกว่าอุณหภูมิจริง โดยจะรู้สึกหนาวจัดถึงระดับติดลบ 40 องศาเซลเซียสได้ และหนักสุดอาจรู้สึกหนาวจัดถึงติดลบ 51 องศาเซลเซียสได้ที่บริเวณชายแดนสหรัฐฯ ที่ใกล้กับแคนาดา เตือนจะเกิดฝนตกหนักเมื่อมวลอากาศเย็นมาปะทะกับอากาศอุ่น จะทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันแบบกระจายพื้นที่ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ พร้อมเตือนระวังสภาพการเดินทางที่อันตรายในช่วง 2-3 วันข้างหน้าด้วย