SJWD โบรกคาดกระแสข่าวดีหนุน แนวโน้มกำไรเพิ่ม
#SJWD #ทันหุ้น - การลงทุนใหม่ๆ ของ SJWD ใกล้แล้วเสร็จหลายดีล ส่งผลให้บล.กสิกร มองแนวโน้มทิศทางกำไรเพิ่ม แนะนำ "ซื้อ"
SJWD มีการลงทุนใหม่ที่มีแนวโน้มสูงจะแล้วเสร็จในไตรมาส 4/ 2566 ตามแผน หลังจากออกหุ้นกู้ 4.0 พันลบ.ในเดือนก.ย. SJWD พร้อมลงทุนครั้งใหญ่อีกรอบ จากข้อมูลของบริษัทฯ
คาดว่าข้อตกลงของการลงทุนใหม่จะเสร็จสิ้นอย่างน้อย 1 ข้อตกลงในไตรมาส 4/2566 จากหลายโครงการลงทุนที่อยู่ในขั้นตอนการเจรจาขั้นสุดท้าย ซึ่งจากเป้าหมายที่จะสร้างผลตอบแทนการลงทุนอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน กำไรของ SJWD หลังการลงทุนใหม่จะเพิ่มขึ้น แม้ว่าดอกเบี้ยจ่ายก็จะสูงขึ้นจากธุรกรรมนี้เช่นกัน จากแผนการณ์นี้เราน่าจะเห็นการลงทุนเพิ่ม
ในช่วงต้นปีหน้า แม้ว่ารายละเอียดของการลงทุนใหม่จะไม่เปิดเผย แต่มองว่าน่าจะเป็นธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (Freight) ที่จะช่วยเติมเต็มคุณภาพการบริการ นอกจากนี้ SJWD ยังกล่าวอีกว่าการลงทุนครั้งใหม่จะไม่มุ่งเน้นเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้นแต่ยังรวมถึงประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคของเราด้วย เพื่อเพิ่มการเชื่อมโยงทางธุรกิจ
บล.กสิิกรมีมุมมองเชิงบวกต่อแนวโน้มธุรกิจในปัจจุบัน ผู้บริหารของ SJWD เปิดเผยในระหว่างการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อวานนี้ว่า การพัฒนาเชิงบวกของธุรกิจหลักจำนวนมาก รวมถึงยานยนด์ ห้องเย็น และลานสินค้าทั่วไปที่สร้างผลกำไรในระดับสูงยังคงดำเนินต่อไปและปรับตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/2566 นอกจากนี้ ผลงานของธุรกิจขนส่งที่ได้รับผลกระทบจากราคาถ่านหินและฤดูฝนจะฟื้นตัวดีขึ้นในไตรมาส 4/2566 โดยเฉพาะเมื่อราคาถ่านหินในตลาดปรับตัวลดลง
นอกจากนี้ยังมองเห็นอุปสงที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจที่ให้เช่าพื้นที่เก็บของในรูปแบบต่าง ๆหลังจากเปลี่ยนชื่อแบรนด์จาก "Store It!" เป็นแบรนด์ "MeSpace" และการเติบโตที่มั่นคงของธุรกิจจัดเก็บเอกสาร แผนการขยายธุรกิจเหล่านี้จำนวนมากจึงอยู่ระหว่างดำเนินการ นอกเหนือจากการมองหาพื้นที่เพิ่มสำหรับธุรกิจลานจอดพักรถยนต์แล้ว SJWD ยังสร้างศูนย์โลจิสติกส์แห่งใหม่ที่แหลมฉบัง คลังสินค้าใหม่หลายแห่งภายใต้บริษัท Alpha และห้องเย็นที่รังสิต การดำเนินการเชิงพาณิชย์ของ Long Son Petrochemical Complex ในเวียดนามที่จะเริ่มในไตรมาส 2/2567 จะทำให้งานด้านการขนส่งของ SJWD ในเวียดนามเพิ่มขึ้น
บล.กสิกรคาดกำไรมีแนวโน้มดีในไตรมาส 4/ 2566 จากความคืบหน้าของธุรกิจหลักส่วนใหญ่ที่กล่าวมาข้างต้น การผนึกกำลังในหลายด้านหลังจากการควบรวมกิจการของ JWD และ SCGL รวมถึงธุรกิจหลายประเภทจะเข้าสู่ช่วงไฮซีซันในไตรมาสที่ 4 SJWD จะสามารถขยายรายได้หลักและอัตรากำไรขั้นต้นได้ไตรมาส 4/2566 เพิ่มเติมจากระดับในไตรมาส 3/2566
นอกจากนี้ กลยุทธ์ในระยะสั้นในการใช้หุ้นกู้จำนวนมากที่ออกล่าสุดจำนวน 4.0 พัน ลบ.เพื่อชำระหนี้จะช่วยลดดอกเบี้ยในไตรมาส 4/2566 จากไตรมาส 3/2566 รวมถึง SJWD จะไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมเช่น ค่าใช้จ่าย 97 ลบ.ที่เกี่ยวข้องกับการโอนกิจการทั้งหมด (EBT) ที่บันทึกไว้ในไตรมาส 3/2566 เราจึงเห็นโอกาสสูงที่กำไรไตรมาส 4/2566 ของ SJWD จะเพิ่มขึ้นอย่างมากทั้ง Y0Y และ Q0Q ซึ่งสร้างสถิติสูงสุดใหม่สำหรับกำไรรายไตรมาสในแง่ของกำไรปกติ ขณะนี้เรายังคงเห็นว่าประมาณการกำไรปี 2566 ของเราที่เดิบโต 48% เป็น748 ลบ.ยังสามารถป็นไปได้ นอกจากนี้ ยังเห็น upside ที่อาจเกิดขึ้นต่อการคาดการณ์ในปัจจุบันในกรณีที่บริษัทฯ ในเครืออย่าง Alpha สามารถจัดตั้งบริษัทฯ ร่วมทุนใหม่ได้ในไตรมาสนี้ ซึ่งจะนำมาซึ่งกำไรเพิ่มเติม
บล.กสิกร คงคำแนะนำ "ซื้อ" และราคาเป้าหมายปี 2567 ไว้ที่ 17.0 บาท และแม้ว่าราคาหุ้นจะพุ่งขึ้น 23% ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ก็ยังซื้อขายต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 12 เดือนล่วงหน้าในรอบ 5 ปีเล็กน้อย ด้วยแนวโน้มกำไรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธุรกิจหลัก พร้อมด้วย upside จากการลงทุนใหม่ จึงมองว่าราคาหุ้นในระยะสั้นจะปรับตัวขึ้นโดยปิดช่องว่างระหว่างราคาปิดล่าสุดและราคาเป้าหมายของเรา ปัจจัยเสี่ยงหลักในระยะสั้นคือค่าเสื่อมราคาที่จะเพิ่มขึ้นจากการปรับมูลค่าการลงทุนเป็นมูลค่ายุติธรรม (FV) ของสินทรัพย์ของ SCGL ซึ่งคาดว่าจะเห็นได้ในไตรมาส 4/2566