TikTok ยกระดับความปลอดภัย เปิดฟีเจอร์คุม AI พร้อมลายน้ำซ่อนตรวจจับคอนเทนต์ทุกมิติ

ติ๊กตอก (TikTok) เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้ผู้ใช้กำหนดได้ว่าต้องการเห็น “คอนเทนต์ที่สร้างด้วย AI” มากน้อยเพียงใดบนหน้า สำหรับคุณ (For You) พร้อมทดสอบเทคโนโลยีติดป้ายกำกับแบบใหม่ด้วย “ลายน้ำซ่อน (Invisible Watermarking)” เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม
ควบคุมปริมาณคอนเทนต์ AI บนหน้า For You ได้เอง
ฟีเจอร์ใหม่นี้ “ควบคุมคอนเทนต์ที่สร้างด้วย AI” จะอยู่ในเมนู จัดการหัวข้อ (Manage Topics) ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ให้ผู้ใช้ปรับความถี่ของเนื้อหามากกว่า 10 หมวด เช่น การเต้น (Dance), กีฬา (Sports) หรืออาหารและเครื่องดื่ม (Food & Drinks)
ติ๊กตอก (TikTok) ระบุว่า ฟีเจอร์นี้ช่วย “ปรับแต่งความหลากหลายของคอนเทนต์ในฟีด มากกว่าการลบหรือแทนที่เนื้อหาโดยสิ้นเชิง” ผู้ใช้ที่ต้องการเห็นคอนเทนต์ AI มากขึ้น เช่น วิดีโอประวัติศาสตร์ที่สร้างด้วย AI สามารถเพิ่มระดับได้ ขณะที่ผู้ที่ไม่ต้องการเห็นก็ลดลงได้เช่นกัน
ผู้ใช้สามารถเปิดใช้งานได้ที่ การกดตั้งค่า (Settings) และการตั้งค่าคอนเทนต์ (Content Preferences) จากนั้นที่จัดการหัวข้อ (Manage Topics) โดยฟีเจอร์ดังกล่าวจะทยอยเปิดให้ใช้งานภายในไม่กี่สัปดาห์
ใส่ “ลายน้ำซ่อน” บนคอนเทนต์ AI เพื่อติดป้ายกำกับแม่นยำขึ้น
เพื่อรับมือกับปัญหาป้ายกำกับที่อาจหายไประหว่างการอัปโหลดหรือแก้ไขบนแพลตฟอร์มอื่น ติ๊กตอก (TikTok) เริ่มทดสอบเทคโนโลยี “ลายน้ำซ่อน (Invisible Watermarking)” ซึ่งเป็นชุดข้อมูลที่ซ่อนอยู่ภายในไฟล์และมีเพียงติ๊กตอก (TikTok) เท่านั้นที่อ่านได้
ติ๊กตอก (TikTok) กล่าวว่าจะเริ่มใส่ลายน้ำซ่อนลงใน คอนเทนต์ AI ที่สร้างด้วยเครื่องมือในแอป เช่น AI Editor Pro และคอนเทนต์ที่อัปโหลดพร้อมข้อมูล C2PA Content Credentials
ลายน้ำซ่อนจะช่วยติ๊กตอก (TikTok) ติดป้ายกำกับคอนเทนต์ได้ “เสถียรกว่าและเชื่อถือได้มากขึ้น” รวมถึงให้ “ข้อมูลเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของไฟล์” ที่อาจเกิดขึ้นระหว่างทาง นอกจากนี้ TikTok จะยังคงอ่านข้อมูล C2PA และเพิ่มข้อมูลนั้นในคอนเทนต์ที่สร้างด้วย AI ภายในแพลตฟอร์มเช่นเดิม
ปัจจุบัน TikTok ใช้ทั้งการตรวจจับด้วยโมเดล AI การติดป้ายโดยครีเอเตอร์ และข้อมูล C2PA ซึ่งช่วยติดป้ายคอนเทนต์ AI แล้วมากกว่า 1.3 พันล้านวิดีโอ (1.3B videos)
ขยายความร่วมมือระดับอุตสาหกรรมด้านความโปร่งใสของ AI
ติ๊กตอก (TikTok) ประกาศกองทุนเพื่อการศึกษาเกี่ยวกับ AI มูลค่า 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 72 ล้านบาท สนับสนุนผู้เชี่ยวชาญ เช่น Girls Who Code หรือองค์กรไม่แสวงหากำไร จากสหรัฐอเมริกาในการสร้างคอนเทนต์สอนทักษะความรู้เท่าทัน AI (AI Literacy) และความปลอดภัย โดยมีผู้เชี่ยวชาญมากกว่า 20 ราย จากกว่า 10 ประเทศ และเตรียมขยายเพิ่มในอนาคต
ในด้านความร่วมมือระหว่างอุตสาหกรรม TikTok จะเข้าร่วมเป็นผู้สนับสนุนองค์กรไม่แสวงกำไร Partnership on AI และเข้าร่วมคณะกรรมการ 2 ด้าน ได้แก่ ความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ AI (AI & Human Connection) การใช้ AI ในองค์กรธุรกิจ (AI & Enterprise)
ตั้งแต่ปี 2023 TikTok ยังเป็นสมาชิกผู้ก่อตั้งกรอบแนวปฏิบัติ กรอบแนวทางการใช้งาน “สื่อ” อย่างรับผิดชอบ (Framework for Responsible Practices for Synthetic Media) และเปิดเผยความคืบหน้าว่าบริษัทนำแนวทางนี้ไปใช้จริงอย่างต่อเนื่อง
พัฒนามาตรฐานการติดป้ายกำกับต่อเนื่องตามข้อแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ
TikTok ระบุว่ากำลังปรับปรุงระบบติดป้ายคอนเทนต์ AI ให้สอดคล้องกับมาตรฐานอุตสาหกรรมและคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญ โดยยังรักษานโยบายที่เข้มงวดต่อคอนเทนต์ AI ที่เป็นอันตราย (Harmful AIGC)
ในปีที่ผ่านมา TikTok ได้เพิ่มบริบทให้ชัดเจนขึ้นว่า “เหตุใดคอนเทนต์จึงถูกติดป้าย AI” เช่น การติดป้ายโดยครีเอเตอร์การตรวจจับโดยระบบของ TikTok ที่เกิดจากการใช้เครื่องมือ AI ภายในแอปเอง และจะพัฒนาต่อไปตามการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม
ใช้ AI เพื่อเพิ่มความสร้างสรรค์และความปลอดภัยบนแพลตฟอร์ม
การอัปเดตครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามของ TikTok ในการยกระดับประสบการณ์เชิงบวกจาก AI ทั้งสำหรับผู้ใช้ และทีมงานดูแลความปลอดภัย (Trust & Safety Team)
TikTok ยังคงพัฒนาเครื่องมือสร้างสรรค์ใหม่ ๆ เช่น ฟีเจอร์ AI ที่ช่วยตัดแยกซีนหรือช่วงสำคัญในวิดีโอให้อัตโนมัติ (Smart Split) และ ฟีเจอร์ที่ช่วยสร้างโครงเรื่องหรือสโคริปต์ให้ทันที (AI Outline)
รวมถึงใช้ AI เพื่อช่วยตรวจสอบและปกป้องแพลตฟอร์มให้ปลอดภัยยิ่งขึ้น TikTok ย้ำว่าจะสื่อสารความคืบหน้าเกี่ยวกับบทบาทของ AI ในการทำให้แพลตฟอร์ม “ปลอดภัย ค้นพบง่าย และสร้างสรรค์มากขึ้น” อย่างต่อเนื่อง
Tag
ยอดนิยมในตอนนี้
