โดนแฉจ่าย5พันแลกผ่านด่านออกนอกภูเก็ต ผู้ว่าฯสั่งสอบแล้วปัดไม่ใช่ฝ่ายปกครองคุมด่านท่าฉัตรไชย(คลิป)

โดนแฉจ่าย5พันแลกผ่านด่านออกนอกภูเก็ต ผู้ว่าฯสั่งสอบแล้วปัดไม่ใช่ฝ่ายปกครองคุมด่าน

จากกรณีนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย (พท.) ออกมาระบุว่า "มีข่าวกระหึ่มทั่วจังหวัดภูเก็ตว่าเมื่อเช้ามืดของวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ที่ด่านท่าฉัตรไชย ซึ่งเป็นด่านของทหาร ตำรวจจังหวัดภูเก็ต มีการให้รวบรวมเงินเป็นชุดๆ ชุดละ 5,000 บาท โดย 1 ชุด มี 10 คัน รวมได้กว่า 1,000 คน เพื่อแลกกับการผ่านด่านเดินทางไปต่างจังหวัด โดยไม่ผ่านมติของคณะกรรมการ ควบคุมโรคติดต่อของจังหวัด เรื่องนี้มีความพยายามเก็บเงียบ แต่กลับดังกระหึ่ม ตนสงสัยว่าเป็นไปได้หรือไม่ เพราะถ้าเป็นจริง การปล่อยคนที่ไม่รู้ว่าเป็นพาหะโควิด-19 กระจายออกไปทั้งประเทศ แบบนี้หากเกิดการระบาดขึ้นมาใหม่รัฐบาลอาจต้องปิดระบบเศรษฐกิจของประเทศอีก แบบนี้รัฐบาลต้องรับผิดชอบอย่างไร”

ล่าสุดเรื่องนี้ วันที่ 4 พ.ค. นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์ ผวจ.ภูเก็ต กล่าวว่า จากกรณีที่ปรากฏเป็นข่าวว่ามีการจ่ายผลประโยชน์เพื่อแลกกับการเดินทางออกนอกเขตจังหวัดภูเก็ตนั้น ขอเรียนว่า ด่านรอยต่อระหว่างจ.ภูเก็ตกับจ.พังงา หรือด่านท่าฉัตรไชยนี้ ตั้งแต่วันที่ 24 มี.ค.เป็นต้นมา ทางจังหวัดได้ตั้งศูนย์อำนวยการส่วนหน้า โดยมีนาย สุพจน์ รอดเรือง ณ หนองคาย รองผวจ.ฝ่ายความมั่นคง เป็นหัวหน้าคณะทำงาน และมีปลัดอำเภอของอำเภอถลางเป็นฝ่ายเลขานุการ ปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าด่านคัดกรอง

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

" ต่อมาจ.ภูเก็ต มีนโยบายปิดรอต่อระหว่างตำบลตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.เป็นต้นมา ฝ่ายปกครองจึงถอนกำลังจากด่านท่าฉัตรไชย เพราะว่าต้องใช้กำลังเจ้าหน้าที่ปิดรอยต่อระหว่างตำบล ดังนั้นในส่วนของการดูแลพื้นที่ด่านตรวจท่าฉัตรไชยจึงเป็นหน้าที่ของตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ซึ่งขณะนี้ทางจังหวัดได้มีวิทยุด่วนที่สุด แจ้งไปยัง พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมทั้งขอให้รายงานมาภายในวันนี้ ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ขณะนี้อยู่ในระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง "

ผวจ.ภูเก็ต กล่าวต่อว่า ส่วนการดำเนินการที่ด่านตรวจภูเก็ตนั้นมีการเตรียมการมาก่อนหน้า ตั้งแต่ประมาณวันที่ 20 กว่าๆ ก่อนสิ้นสุดมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งได้ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดและดูจำนวนตัวเลขของพี่น้องที่ตกค้างอยู่ในพื้นที่ว่ามีจำนวนเท่าใด พบว่ายังมีผู้ที่ตกค้างอยู่ที่ประมาณ 50,000 รายเศษ จึงเริ่มให้ดำเนินการลงทะเบียนออนไลน์ เพื่อที่จะจัดระเบียบในการผ่อนคลายและอำนวยความสะดวกให้พี่น้องในการเดินทาง อย่างไรก็ตามในวันที่มีเหตุชุลมุนบริเวณที่หน้าด่านตรวจนั้นต้องกราบขออภัยในความไม่สะดวก ขอขอบคุณผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดที่ช่วยอำนวยความสะดวกรับพี่น้องประชาชนกลับไปยังภูมิลำเนา ซึ่งหลายจังหวัดได้ส่งรถมารับ เช่นจังหวัดนครพนม อุดรธานี เป็นต้น ที่ได้เตรียมการไว้เป็นอย่างดี ขณะนี้สถานการณ์เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยตามที่มีการจัดระเบียบ

" จากรายงานการลักลอบผ่านด่านตรวจโดยวิธิพิเศษนั้นเท่าที่ทราบยังไม่มี และการจะผ่านบริเวณหน้าด่านตรวจได้นั้นต้องประกอบด้วย บัตรประจำตัวประชาชน ซึ่งได้ลงทะเบียนเลข 13 หลัก และต้องมีเอกสารหรือจดหมายนำจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้เดินทางออก ในเอกสารนั้นเลข 13 หลักจะต้องตรงกันกับบัตรประชาชนที่มาแสดง และที่สำคัญจะต้องมีหนังสือรับรองการเดินทางข้ามจังหวัด หรือ FIT TO TRAVEL ที่สาธารณะสุข นายอำเภอ ปลัดอำเภอจะเซ็นต์รับรองให้ ซึ่งคิดว่าการเล็ดลอดออกไปคงไม่น่าเป็นไปได้ "

สำหรับผู้ที่จะเดินทางกลับภูมิลำเนา ขณะนี้ทางจังหวัดจะยังเปิดให้ลงทะเบียนได้ต่อเนื่องไม่มีกำหนด โดยเปิดให้ลงทะเบียนทางออนไลน์หรือ ลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึงเวลา 18.00 น.ของทุกวัน ซึ่งจากข้อมูลทราบว่าคนต่างจังหวัดที่มาทำงานอยู่ในจังหวัดภูเก็ตมีกหลักแสนคน แต่คาดว่าจะมีประมาณ 50,000 คนที่อยากเดินทางกลับเนื่องจากว่างงาน แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่อยากกลับ หรืออาจจะยังติดภารกิจที่ต้องทำอยู่ เช่นพนักงานส่งอาหาร ต่างๆเป็นต้น