รีเซต

OR โบรกฯ คาดแจ้งงบพรุ่งนี้ มอง Q4/66 อ่อนตัว แต่แนวโน้ม Q1/67 ฟื้น

OR โบรกฯ คาดแจ้งงบพรุ่งนี้ มอง Q4/66 อ่อนตัว แต่แนวโน้ม Q1/67 ฟื้น
ทันหุ้น
12 กุมภาพันธ์ 2567 ( 15:44 )
71

#OR #ทันหุ้น-โบรกเกอร์ คาดว่าบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR จะประกาศผลดำเนินงานในงวดไตรมาส 4/66 และงวดปี 2566 ในวันพรุ่งนี้(13 ก.พ.) ซึ่งประเมินว่ากำไรไตรมาส 4/66 จะอ่อนตัวลง แต่แนวโน้มไตรมาส 1/67 จะกลับมาฟื้นตัวได้ ซึ่งโบรกเกอร์แต่ละแห่ง แนะนำกลยุทธ์การลงทุน ซึ่งมีมุมมองคำแนะนำที่แตกต่างกัน 

 

บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาดกำไรปกติงวดไตรมาส 4/66 อยู่ที่ 600 ล้านบาท ลดลง 87% จากไตรมาสก่อน แม้คาดปริมาณขายน้ำมันรวมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6,950 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 3% จากไตรมาสก่อน ตามปัจจัยฤดูกาล โดยกำไรที่ลดลงถูกกดดันจากค่าการตลาดที่คาดลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0.70 บาทต่อลิตร และค่าใช้จ่าย SG&A ที่เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล ขณะที่เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนสามารถพลิกเป็นกำไรได้ เพราะสถานการณ์อุปทานน้ำมันในประเทศไม่ตึงตัวเหมือนปีก่อน 

 

ส่วนแนวโน้มกำไรปกติไตรมาส 1/67 คาดว่าจะฟื้นตัวอยู่ที่ 2,600-2,800 ล้านบาท ฟื้นตัวจากไตรมาสก่อน  ตามค่าการตลาดที่มีแนวโน้มฟื้นตัว แต่หากเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน จากปริมาณขายน้ำมันที่มีแนวโน้มลดลงจากฐานที่สูงและค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้น โดยยังคงประมาณการกำไรทั้งปี 2567 อยู่ที่ 12,026 ล้านบาท และคงราคาเป้าหมายที่ 20.10 บาท แนะนำเก็งกำไร 

 

บล.ทรีนีตี้ คาดว่า OR จะมีกำไรไตรมาส 4/66 ที่ 408 ล้านบาท ลดลง 92% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาส 4/65 ที่ขาดทุน 741 ล้านบาท จากกำไรขั้นต้นต่อลิตรที่ลดลง ด้วยผลขาดทุนสต็อก และขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้กำไรอ่อนตัวลงจากไตรมาสก่อน ส่วนแนวโน้มไตรมาส 1/67 คาดว่ากำไรจะฟื้นตัว จากราคาน้ำมันที่ค่อยๆ ปรับขึ้นมา โดยยังคงประมาณการกำไรปี 2567 ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 27 บาท 

 

บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) คาดกำไรไตรมาส 4/66 ของ OR อยู่ที่ 658 ล้านบาท ลดลง 87.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่พลิกมีกำไรได้จากไตรมาส 4/65 ที่ขาดทุนราว 744 ล้านบาท โดยกำไรที่ลดลง เป็นผลกระทบจากผลขาดทุนสต๊อกน้ำมันตามการลดลงของราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตามมองแนวโน้มไตรมาส 1/67 จะกลับมาฟื้นตัว จากผลกระทบสต๊อกน้ำมันจะน้อยลง รวมถึงค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการขายที่ลดลง จึงมองว่าราคาหุ้นอ่อนตัวเป็นจังหวะเข้าสะสม แนะนำซื้อ ให้ราคาเป้าหมายที่ 25.00 บาท 

 

บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ได้ปรับลดคำแนะนำในหุ้น OR ลงเป็นถือ จากเดิมแนะนำซื้อ และปรับลดราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 20.00 บาทจากเดิมที่ 22.00 บาท โดยประเมินว่าจะมีกำไรไตรมาส 4/66 ที่อ่อนแออยู่ที่ 227 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน พร้อมประมาณการกำไรสุทธิทั้งปี 2566 และ 2567 อยู่ที่ 1.12 หมื่นล้านบาท ลดลง 18% และที่ 1.11 หมื่นล้านบาท ลดลง 9% เพื่อสะท้อนปริมาณขายน้ำมันที่ลดลงอยู่ในช่วง 2.76-2.85 หมื่นล้านลิตร จากเดิมที่ 2.79-2.92 หมื่นล้านลิตร สำหรับน้ำมันในประเทศ ส่วนน้ำมันขายในต่างประเทศ คาดว่าอยู่ที่ 1.70-1.79 พันล้านลิตร ลดลงจากเดิมที่ 1.76-1.85 พันล้านลิตร รวมถึงกำไรขั้นต้นที่ลดลง และกำไรจากบริษัทร่วมที่ลดลง 

 

บล.เคจีไอ(ประเทศไทย) คาดว่ากำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ของ OR อยู่ที่ 466 ล้านบาท ต่ำว่าประมาณการเดิมเบื้องต้นของฝ่ายวิจัย เนื่องจากค่าการตลาดน้ำมันลดลง โดยมีสาเหตุหลักมาจากผลขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน โดยฝ่ายวิจัยได้ปรับลดราคาเป้าหมายลงมาอยู่ที่ 24.00 บาท จากเดิมที่ 26.00 บาท เพื่อสะท้อนถึงการปรับลดประมาณการกำไรปี 2567 แต่ยังคงแนะนำซื้อ โดยมองว่าราคาหุ้นน่าจะถูกกดดันจากผลประกอบการไตรมาส 4/66 ที่คาดว่าอ่อนแอไปอีกระยะหนึ่ง 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง