รีเซต

รัฐท้องถิ่นออสซี่ป่วยโควิด-19 พุ่งทุบสถิติ ผุดข้อกังขาประสิทธิภาพ 'ล็อกดาวน์'

รัฐท้องถิ่นออสซี่ป่วยโควิด-19 พุ่งทุบสถิติ ผุดข้อกังขาประสิทธิภาพ 'ล็อกดาวน์'
Xinhua
2 กรกฎาคม 2564 ( 15:12 )
49

 

ซิดนีย์, 2 ก.ค. (ซินหัว) -- รัฐนิวเซาธ์เวลส์ของออสเตรเลียตรวจพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) เพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์ ทำให้หลายฝ่ายตั้งคำถามถึงประสิทธิภาพของมาตรการล็อกดาวน์ที่ซิดนีย์บังคับใช้ในปัจจุบัน

 

 

นิวเซาธ์เวลส์พบผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่ติดเชื้อในท้องถิ่นเพิ่ม 31 ราย ในช่วง 24 ชั่วโมง เมื่อนับถึง 20.00 น. ของวันพฤหัสบดี (1 ก.ค.) นับเป็นยอดผู้ป่วยรายวันสูงสุดตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย. ที่พบผู้ป่วยรายแรกของการแพร่ระบาดครั้งล่าสุด ซึ่งมีผู้ป่วยสะสม 226 ราย ขณะเดียวกันทำการตรวจโรคทั้งหมด 73,602 ครั้ง สูงทำลายสถิติของวันก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ 59,941 ครั้ง

 

 

กลาดีส์ เบเรจิกเลียน มุขมนตรีของรัฐฯ ระบุว่ายอดผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงสถานการณ์ก่อนดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ พร้อมแสดงความกังวลกรณีผู้ป่วยกว่า 13 ราย ที่เดินทางไปมาในชุมชนขณะติดเชื้อ โดยมีการเน้นย้ำประชาชนอยู่แต่บ้านเพื่อความปลอดภัย

 

 

"เราคาดการณ์ว่ายอดผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้นในช่วงหลายวันข้างหน้านี้ และหวังว่าช่วงต้นสัปดาห์หน้าเราจะเริ่มเห็นผลเชิงบวกของการล็อกดาวน์"

 

 

เคอร์รี แชนต์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของรัฐฯ ไม่ออกความเห็นถึงโอกาสขยายระยะเวลามาตรการล็อกดาวน์ของซิดนีย์ กล่าวว่า "สิ่งที่บอกได้คือเราพิจารณาปัจจัยเกี่ยวกับจำนวนวันที่มีการติดเชื้อในชุมชนอย่างใกล้ชิด"

 

 

แชนต์ระบุว่าหลังจากรัฐฯ ดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ ฝ่ายแกะรอยผู้มีประวัติเสี่ยงพบว่ารายการสถานที่กลุ่มเสี่ยงเปลี่ยนแปลงไป จากสถานบริการ ร้านเสริมสวย และร้านตัดผม เป็นกิจการค้าปลีก พร้อมกล่าวเตือนว่า "อย่าออกไปซื้อของในร้านค้าปลีก ไม่ว่ากรณีใดๆ หากคุณมีอาการป่วย"

 

 

ด้านรัฐควีนส์แลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้เคียง ประกาศขยายระยะเวลามาตรการล็อกดาวน์ต่ออีก 24 ชั่วโมงจนถึง 18.00 น. ของวันเสาร์ (3 ก.ค.) ครอบคลุมเมืองบริสเบนและภูมิภาคอ่าวมอร์ตัน ซึ่งตั้งอยู่ติดกันทางตอนเหนือ หลังตรวจพบผู้ป่วยใหม่ 3 ราย ในชุมชนเมืองบริสเบน

 

 

"การล็อกดาวน์เพิ่ม 24 ชั่วโมงเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อฝ่ายแกะรอบผู้มีประวัติเสี่ยงมีเวลาตรวจสอบผู้สัมผัสใกล้ชิดและผู้สัมผัสเป็นครั้งคราว" จีนเนตต์ ยัง หัวหน้าเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของควีนส์แลนด์กล่าว "เราต้องทำเช่นนี้เพื่อจำกัดโอกาสการแพร่ระบาดและรักษาความปลอดภัยของชุมชนต่อไป"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง