รีเซต

โผล่เพิ่ม! ผู้ปกครอง จ่อแจ้งความจับครูพี่เลี้ยงเพิ่ม - ลงบันทึกประจำวันเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด

โผล่เพิ่ม! ผู้ปกครอง จ่อแจ้งความจับครูพี่เลี้ยงเพิ่ม - ลงบันทึกประจำวันเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด
มติชน
27 กันยายน 2563 ( 16:19 )
291
โผล่เพิ่ม! ผู้ปกครอง จ่อแจ้งความจับครูพี่เลี้ยงเพิ่ม - ลงบันทึกประจำวันเพื่อขอดูกล้องวงจรปิด

ผู้ปกครองเด็ก เตรียมแจ้งความจับครูพี่เลี้ยงเพิ่ม ร่วมลงมือด้วย ผู้ปกครองชั้นอนุบาลห้องอื่นมาลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน เพื่อขอดูกล้องวงจรปิด

 

เมื่อวันที่ 27 กันยายน จากกรณีที่กลุ่มผู้ปกครอง นำโดยนายชาญวิทย์ น้อยสุขยิ่ง  อายุ 37 ปี  พ่อของ น้องเสือ อายุ 3 ขวบ 8 เดือน อยู่อนุบาล 1 เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สุภกร แสงจันทร์ รอง สว.สอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ ให้ดำเนินคดีกับน.ส. อรอุม ปลอดโปร่ง ซึ่งครูในสังกัดโรงเรียนสารสาสนวิเทศราชพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ข้อหาทำร้ายร่างกายเด็กนักเรียน จำนวนหลายคน โดยนำคลิปวีดีโอ จากกล้องวงจรปิดที่ทางโรงเรียนติดไว้ในห้องเรียน

 

เมื่อเวลา 11.00 น. ที่ สภ.ชัยพฤกษ์  อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี มีผู้ปกครองเด็กนักเรียนโรงเรียนดังกล่าวเดินทางมาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อขอลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐานเพิ่มเติม

 

นายชาญวิทย์  กล่าวว่า ตนเตรียมที่จะแจ้งความดำเนินคดีกับพี่เลี้ยงผู้ชาย ที่ลงมือทำร้ายน้องเสือเพิ่ม  เพราะในคลิปจะเห็นว่าน้องเสือนั่งอยู่ที่โต๊ะเรียน แต่ถูกพี่เลี้ยงผู้ชายเดินเข้ามาชี้หน้า จนน้องเสือร้องไห้ เท่านั้นไม่พอ พี่เลี้ยงผู้ชายยังเดินเข้าไปกระชากแขนให้น้องเสือลุกจากโต๊ะ เมื่อน้องเสือไม่ยอมพี่เลี้ยงผู้ชายได้อุ้มแขนน้องเสือ หลังจากนั้นได้ผลักหลังน้องเสือให้เดิน ขณะที่น้องเสือยังร้องไห้ไม่หยุด ตนจึงไม่แปลกใจเลย เวลาที่ครูจุ๋ม ทำร้ายเด็ก จึงไม่มีใครเข้าห้าม เพราะเป็นแบบนี้กันหมด

 

นายณรงค์ปกรณ์  อินไชยย์ทอง อายุ 41 ปี พ่อน้องเท็มส์ อายุ 3 ขวบ 6 เดือน กล่าวว่า หลังจากที่ตนแจ้งความดำเนินคดีกับ น.ส.อรอุมา หรือครูจุ๋ม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ตนพาน้องเท็มส์ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลปากเกร็ด 2 ระหว่างทางต้องขับรถผ่านโรงเรียน แค่น้องเท็มส์ เห็นหลังคาโรงเรียน น้องเท็มส์ถึงกับร้องบอกตนว่า ไม่ไปโรงเรียน คิดดูเด็กถูกกระทำถึงขนาดเห็นหลังคาโรงเรียนยังหวาดกลัว  ตอนนี้ตนจะมีการแจ้งความดำเนินคดีกับพี่เลี้ยงอีกคนที่ทำร้ายน้องเท็มส์ ต่อจากครูจุ๋ม แต่ทางร้อยเวรบอกว่า ถ้าจะแจ้งอีกต้องแยกอีกสำนวน เพราะเป็นคนละคนกัน

 

น.ส.ปุ๊ก มารดาของเด็กนักเรียนอนุบาลโรงเรียนชื่อดัง เคจีวัน ห้อง บี กล่าวว่า ตนมาขอลงบันทึกประจำวัน เพื่อนำไปเป็นหลักฐานในการขอดูกล้องวงจรห้องที่ลูกสาว เรียนอยู่  เพราะตนไม่แน่ใจว่าจะมีเหตุการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับลูกตนหรือเปล่า เนื่องจากบางวันลูกสาว จะมีรอยจ้ำเเดง ๆ ที่แขน ขา เมื่อถามลูกก็ไม่ยอมบอก พอมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ตนชักไม่แน่ใจ จึงอยากจะขอดูกล้องวงจรปิดในห้องเรียนลูกสาว

 

นายเอก ผู้ปกครองห้อง เคจีวัน ซี  กล่าวว่า ตนก็มาขอลงบันทึกประจำวันเหมือนกัน เพราะจะขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ห้องลูก  เนื่องจากลูกตนจะมีพฤติกรรมเหมือนกับที่ปกครองไลฟ์สด ว่าเด็กทุกคนจะถูกปลูกฝัง ให้พูดว่า รักคุณครูมาก  ซึ่งตนเคยถามลูกว่า เคยถูกครูทำโทษบ้างไหม  ลูกตนตอบว่า ไม่เคยถูกครูทำโทษ  และจะบอกว่า รักคุณครูมาก 

 

 

เมื่อเวลา 14.30 น.วันเดียวกัน ที่ สภ.ชัยพฤกษ์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายรณรงค์ แก้วเพชร์ ทนายความประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้มายื่นหนังสือ เรื่อง ขอให้ส่งสอบสวนเพิ่มเติม ประเด็นหน่วงเหนี่ยวกักขังแก่ พ.ต.อ สถิตพร บุณยรัตพันธุ์ ผกก.สภ.ชัยพฤกษ์ โดย ร.ต.อ.อุทิศ อาสานอก พนักงานสอบสวน สภ.ชัยพฤกษ์ เป็นผู้รับหนังสือแทน

 

โดยหนังสืออ้างอิงถึง รายงานประจำวันเกี่ยวกับคดีเลขที่ 145 สภชัยพฤกษ์ เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2563 จากกรณีที่นางสาวอรอุม ปลอดโปร่ง ซึ่งครูในสังกัดโรงเรียนสารสาสนวิเทศราชพฤกษ์ ได้ทำร้ายร่างกาย นักเรียนชั้นอนุบาล มีข้อเท็จจริงที่ผู้ปกครองแจ้งเพิ่มเติมว่ามีเด็กนักเรียนบางคนถูกลงโทษด้วย วิธีการขังในห้องน้ำโรงเรียนเป็นเวลานานทำให้เด็กนั้นได้รับอันตรายด้านจิตใจและเป็นการจำกัดเสรีภาพ ไม่ให้ออกไปไหนให้เด็กอยู่ในที่กำหนด โดยมีขอบเขตจำกัดโดยที่เด็กไม่สมัครใจ จากการกระทำของ น.ส.อรอุมา ปลอดโปร่ง มีอาการหวาดระแวง กลัวการไปโรงเรียน ตื่นขึ้นมาผวาตอนกลางคืน กระวนกระวาย กลัวคน บางครั้งมีอาการหลอนพูดจาคนเดียว และหวาดกลัวการเข้าไปอยู่ในห้องแคบๆ คนเดียว แต่พนักงานสอบสวนยังไม่ได้มีความเห็นทางกฎหมายในประเด็นนี้ จึงอยากให้สอบสวนเพิ่มตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 310 ผู้ใดหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำ ด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับซึ่งตามบทบัญญัติของกฎหมายการกระทำอันเป็นองค์ประกอบความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวกังขัง เป็นการทำให้เสียเสรีภาพในการเคลื่อนไหวร่างกายบังคับให้อยู่ในพื้นที่จำกัดจึงเป็นความผิดตามบทบัญญัติกฎหมายข้างต้น

 

ข้าฯจึงขอความเป็นธรรมให้ดำเนินการสั่งสอบเพิ่มเติมขอให้ดำเนินการสอบสวนและแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 310 แก่ครูหรือเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบทุกคน ขณะเกิดเหตุในฐานะตัวการ่วมหรือผู้สนับสนุนให้เกิดการกระทำความผิด

 

อนึ่งคดีนี้อยู่ในความสนใจของสังคมและเกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิเด็กซึ่งเป็นการขัดกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ( Convention on the Rights of the Child ) จึงต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาดให้สังคมเห็นเพื่อไม่ให้มีการลอกเลียนแบบเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นว่าต้องไม่มีการละเมิดสิทธิเด็กในประเทศไทย จึงเรียนมาเพื่อพิจารณาดำเนินการ

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง