จ่อสอบวินัยร้ายแรง ครูขืนใจป.5 ในห้องน้ำ แม่เผยซ้ำ ลูกอีกคนก็เคยถูกล่วงละเมิด
จากกรณีผู้ปกครองเด็กหญิงวัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ ร้องเรียนว่าลูกสาวถูกครูประจำชั้นชาย อายุ 57 ปี ล่วงละเมิดทางเพศในห้องน้ำภายในโรงเรียน โดยการปีนกำแพงห้องน้ำครูที่อยู่ติดกันเข้ามาใช้มือปิดปากไม่ไห้ส่งเสียงร้อง และล่วงละเมิดทางเพศ โดยยื่นข้อเสนอเป็นเงิน 200,000 บาท เพื่อให้จบเรื่อง แต่ทางผู้ปกครองไม่ยอมรับ และต้องการให้ดำเนินคดีทางวินัยและอาญาอย่างถึงที่สุด
ล่าสุดวันที่ 21 ส.ค. นายภัณฑ์รักษ์ พลตื้อ ผู้อำนวยการ สพป.กาฬสินธุ์ เขต3 กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องได้รับรายงานตั้งแต่ วันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยสั่งการให้รองผู้อำนวยการ สพป.กาฬสินธุ์ เขต3 พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่เข้าติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด หลังเกิดเหตุได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง
พร้อมส่งเจ้าหน้าที่นักจิตวิทยา และเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจลงพื้นที่ให้กำลังใจช่วยเหลือเยียวยาสภาพจิตใจเด็กและผู้ปกครอง อีกทั้งได้มีหนังสือคำสั่งให้ครูประจำชั้นคนดังกล่าวเข้ามาช่วยราชการที่เขตพื้นที่การศึกษาฯตั้งแต่วันที่ 14 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยไม่มีกำหนด
นายภัณฑ์รักษ์ กล่าวต่อว่า จากการลงพื้นที่ของคณะกรรมการฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐาน พบว่าเหตุการณ์ดังกล่าว มีมูลความผิด ซึ่งทาง สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 ได้ส่งเรื่องไปยังศึกษาธิการจังหวัด ซึ่งเป็นมีอำนาจ เพื่อให้ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง พร้อมกับมีการเสนอเรื่องให้ครูประจำชั้นคนดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนเป็นการเบื้องต้น
ทั้งนี้เป็นไปตามข้อสั่งการและนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกระทรวงศึกษาธิการ ที่ให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวนี้อย่างเด็ดขาด และดำเนินการถึงที่สุดฟันไม่เลี้ยงหากพบการกระทำและประพฤติผิดจริง อย่างไรก็ตามเรื่องดังกล่าว สพป.กาฬสินธุ์ ยืนยันว่าจะต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย ส่วนในเรื่องของคดีนั้นก็เป็นหน้าที่ของตำรวจ
ด้านแม่ของเด็กหญิงวัย 11 ปี กล่าวว่า ยังรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากที่เรื่องนี้มาเกิดกับลูกสาว ขณะนี้สงสารลูกมาก เพราะยังคงหวาดผวา และกลัวจนไม่กล้าไปโรงเรียน อย่างไรก็ตามที่ผ่านเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันนี้ยังเคยเกิดขึ้นกับลูกชายของตน เมื่อครั้งที่เรียนประถมอยู่โรงเรียนดังกล่าวเคยถูกครูคนดังกล่าวล่วงละเมิดจับอวัยวะเพศมาแล้ว
ซึ่งตอนนี้ลูกชายได้จบออกมาอายุ 20 ปีแล้ว แต่ตอนนั้นตนและครอบครัวไม่ติดใจ เพราะเห็นว่าเป็นลูกชาย แต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดขึ้นกับลูกสาวอีก จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินคดีกับครูประจำชั้นคนดังกล่าวอย่างถึงที่สุด เพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้กับใครอีก