รีเซต

ฤทธิ์พายุเตี้ยนหมู่ 31 จว.ยังท่วม กระทบ 2.2แสนครัวเรือน เสียชีวิต 7 ราย

ฤทธิ์พายุเตี้ยนหมู่ 31 จว.ยังท่วม กระทบ 2.2แสนครัวเรือน เสียชีวิต 7 ราย
ข่าวสด
30 กันยายน 2564 ( 12:53 )
807
ฤทธิ์พายุเตี้ยนหมู่ 31 จว.ยังท่วม กระทบ 2.2แสนครัวเรือน เสียชีวิต 7 ราย

ปภ.รายงาน 31 จังหวัด ยังท่วม จากอิทธิฤทธิ์พายุโซนร้อน“เตี้ยนหมู่” ประชาชนได้รัผลกระทบ 2.2 แสนครัวเรือน เสียชีวิตแล้ว 7 สูญหาย 1 ราย เร่งช่วยผู้ประสบภัย

 

 

วันที่ 30 ก.ย.2564 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) รายงานจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” ซึ่งเคลื่อนตามแนวร่องมรสุมเข้าปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – ปัจจุบัน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 31 จังหวัด

 

 

ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย พิษณุโลก เพชรบูรณ์ พิจิตร กำแพงเพชร เลย ขอนแก่น ชัยภูมิ ยโสธร นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และนครปฐม 190 อำเภอ 956 ตำบล 6,335 หมู่บ้าน 1 เขตเทศบาล

 

 

ประชาชนได้รับผลกระทบ 227,470 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 7 ราย (ลพบุรี 6 ราย และเพชรบูรณ์ 1 ราย) สูญหาย 1 ราย (เพชรบูรณ์ 1 ราย) ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 13 จังหวัด (เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ตาก บุรีรัมย์ นครปฐม ยโสธร สุรินทร์ เลย ศรีสะเกษ สระแก้ว จันทบุรี และปราจีนบุรี) ยังคงมีสถานการณ์ 18 จังหวัด ดังนี้ สุโขทัย น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.ศรีสำโรง อ.คีรีมาศ และอ.เมืองสุโขทัย ระดับน้ำลดลง อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ

 

 

พิษณุโลก น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.วังทอง อ.พรหมพิราม และอ.บางระกำ ระดับน้ำลดลง เพชรบูรณ์ เกิดน้ำไหลหลากในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อ.หนองไผ่ อ.วิเชียรบุรี อ.ศรีเทพ อ.เมืองเพชรบูรณ์ อ.น้ำหนาว และอ บึงสามพัน ระดับน้ำลดลง

 

 

พิจิตร น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.บึงนาราง อ.โพธิ์ประทับช้าง อ.โพทะเล และอ.สามง่าม ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำการเกษตร ระดับน้ำทรงตัว อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ กำแพงเพชร น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ขาณุวรลักษบุรี และอ.คลองขลุง ระดับน้ำลดลง

 

 

ขอนแก่น น้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อ.ภูผาม่าน อ.ชุมแพ อ.หนองเรือ อ.แวงน้อย อ.แวงใหญ่ อ.โคกโพธิ์ไชย อ.ชนบท อ.มัญจาคีรี และอ.โนนศิลา ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ

 

 

ชัยภูมิ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองชัยภูมิ อ.ภูเขียว อ.บ้านเขว้า อ.จัตุรัส และอ .คอนสวรรค์ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ นครราชสีมา น้ำล้นอ่างเก็บน้ำเข้าท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ ได้แก่ อ.ด่านขุนทด อ สูงเนิน อ.โนนสูง อ.เมืองนครราชสีมา อ.พิมาย อ.ปักธงชัย อ.โนนโทย อ.คง อ.พระทองคำ อ.จักราช อ.สีดา อ.ขามสะแกแสง และอ.บ้านเหลื่อม ระดับน้ำเพิ่มขึ้น อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ

 

 

อุบลราชธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่อ.เมืองอุบลราชธานี ระดับน้ำเพิ่มขึ้น จัดตั้งจุดอพยพ 9 จุด ผู้อพยพ 101 ครัวเรือน นครสวรรค์ น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.ลาดยาว และอ.ท่าตะโก ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ ระดับน้ำลดลง อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ

 

 

อุทัยธานี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองอุทัยธานี และอ.ทัพทัน และอ.สว่างอารมณ์ ระดับน้ำลดลง ชัยนาท เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 8 อำเภอ ได้แก่ อ.มโนรมย์ อ.วัดสิงห์ อ.เนินขาม อ.หันคา อ.สรรคบุรี อ.สรรพยา อ.เมืองชัยนาท และอ.หนองมะโมง และระดับน้ำเพิ่มขึ้น

 

 

ลพบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองลพบุรี อ.ชัยบาดาล อ.บ้านหมี่ และอ.โคกสำโรง ระดับน้ำลดลง สระบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อ.วังม่วง อ.แก่งคอย อ.เสาไห้ อ.บ้านหมอ อ.หนองโดน อ.วิหารแดง อ.พระพุทธบาท อ.เมืองสระบุรี และอ.มวกเหล็ก ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

 

 

สุพรรณบุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 2 อำเภอ ได้แก่ อ.บางปลาม้า และอ.สองพี่น้อง ระดับน้ำเพิ่มขึ้น สิงห์บุรี น้ำท่วมขังในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.อินทร์บุรี อ.เมืองสิงห์บุรี และอ.ค่ายบางระจัน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
อ่างทอง น้ำท่วมขังในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อ.เมืองอ่างทอง อ.วิเศษชัยชาญ อ.ไชโย และอ.ป่าโมก ระดับน้ำเพิ่มขึ้น

 

 

พระนครศรีอยุธยา น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.บางบาล อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา และอ.บางไทร ยังน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำน้อย และคลองโผงเผง ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ระดับน้ำเพิ่มขึ้น ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบขนาดใหญ่เพื่อเร่งระบายน้ำแล้ว

 

 

ภาพรวมสถานการณ์ปัจจุบันบางพื้นที่เริ่มคลี่คลาย แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ อยู่ระหว่างการเร่งระบายน้ำ ซึ่งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยสำรวจและประเมินความเสียหาย เพื่อช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สำหรับประชาชนแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง