ตั้งศูนย์ช่วยเหลือเยียวยาเหตุยิงกลางห้างดัง เตรียมยกระดับความปลอดภัยทุกพื้นที่
กระทรวงการต่างประเทศตั้งศูนย์ดูแลเยียวยาครอบครัว-ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุยิงกลางห้างดัง เตรียมยกระดับความปลอดภัย-สร้างเชื่อมั่นภาพลักษณ์ท่องเที่ยวไทย
นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงต่างประเทศ พร้อมด้วย นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และพล.ต.ท. สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ร่วมแถลงข่าวเหตุการณ์ความรุนแรงในห้างสรรพสินค้าชื่อดังวานนี้ ( 3 ต.ค. ) โดยนายจักรพงษ์ แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมบอกว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญกำชับกับกระทรวงต่างประเทศดูแลช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวและผู้ได้รับผลกระทบ ซึ่งกระทรวงต่างประเทศได้ตั้งศูนย์คอมมานเซ็นเตอร์ขึ้นมาไว้คอยประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ผู้เสียชีวิต และ ประสานงานกับสถานทูตต่างๆ ในประเทศไทย
ด้านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ยืนยันจะเร่งเยียวยาผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ให้ดีที่สุด โดยผู้บาดเจ็บพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระราชินี ได้รับเข้าเป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ ส่วนการประสานงานกับสถานทูตจีน นายกรัฐมนตรีได้พูดคุยชี้แจงกับเอกอัครราชทูตจีนแล้ว
ซึ่งทางการทูตตอบกลับมาว่าขอบคุณที่สามารถควบคุมสถานการณ์ให้จบได้เร็ว และหลังจากนี้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ จะวางมาตรการเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชน โดยจะพูดคุยหารือกับหลายภาคส่วนว่าจะใช้มาตรการอย่างไรให้เหมาะสมไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยอีก
ส่วนมาตรการส่งเสริมภาพลักษณ์สร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวเสริมว่า ททท.จะบริหารจัดการใน 3 ส่วน คือ ยกระดับความปลอดภัยในทุกพื้นที่เยียวยาฟื้นฟูสภาพจิตใจผู้ประสบเหตุและสื่อสารภาพลักษณ์ สร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว โดยจะมีการวางแผนทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยาว
ขณะที่พล.ต.ท.สำราญ ระบุว่า ปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนแบลงค์กันพลาสติก ที่เปลี่ยนลำกล้องดัดแปลงให้สามารถใช้งานได้ จากนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพิจารณาแก้ไขกฎหมายการควบคุมครอบครองสิ่งเทียมอาวุธต่อไป
ทั้งนี้ ในส่วนรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บเสียชีวิต มีการยืนยัน ว่า มีผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นชาว จีน 1 ราย ชาวเมียนมา 1 ราย บาดเจ็บ 5 ราย เป็นคนชาวจีน 1 ราย ชาวลาว 1 ราย และคนไทย 3 ราย
สำหรับการเยียวยาดูแลผู้ได้รับผลกระทบ กระทรวงการต่างประเทศระบุว่าก่อนหน้านี้มีกองทุนช่วยเหลือเยียวยาแต่ได้ยุบกองทุนไปแล้วดังนั้นจากเหตุการณ์นี้อาจต้องใช้งบประมาณส่วนกลางเข้ามาช่วยเหลือ
ภาพจาก TNN ช่อง 16