รีเซต

ลุ้นผลตรวจโควิด 10ทหารไทยกลับจากฮาวายวันนี้ ส่วนอีก140 นายกักตัวเข้มที่ชลบุรี ห้ามออกนอกห้องพัก ขณะที่ฮูชี้วัคซีนไม่ทันใช้ต้นปี 64

ลุ้นผลตรวจโควิด 10ทหารไทยกลับจากฮาวายวันนี้ ส่วนอีก140 นายกักตัวเข้มที่ชลบุรี ห้ามออกนอกห้องพัก ขณะที่ฮูชี้วัคซีนไม่ทันใช้ต้นปี 64
มติชน
24 กรกฎาคม 2563 ( 09:06 )
197

ลุ้นผลตรวจโควิด 10ทหารไทยกลับจากฮาวายวันนี้ ส่วนอีก140 นายกักตัวเข้มที่ชลบุรี ห้ามออกนอกห้องพัก ขณะที่ฮูชี้วัคซีนไม่ทันใช้ต้นปี 64

ภายหลังจากทหารอียิปต์ซึ่งได้รับการยกเว้นเข้าประเทศไทย โดยติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 หรือโควิด19 แล้วไปเดินห้างสรรพสินค้าในจ.ระยอง รวมถึงลูกอุปทูตซูดาน ที่ติดโควิดและเข้าพักอาศัยในคอนโดหรู สุขุมวิท 26 ซึ่งสร้างความหวาดวิตกถึงการแพร่ระบาดเชื้อรอบ2 จนมีการตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงเกือบ 1 หมื่นรายแต่ไม่พบเชื้อนั้น ล่าสุดทหารไทยจำนวน 151 นายเดินทางกลับจากการฝึกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา นั้น

เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ณฐพนธ์ ศรีสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษกองทัพบก ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กองทัพบก (ศบค.ทบ.) เปิดเผยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมว่า กรณีที่ทหารกองร้อยทหารราบ RTA Combat Team กำลังผสมจากกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 3 ซึ่งประกอบด้วย นายทหารสัญญาบัตรจากทุกกองทัพภาค นายทหารประทวนและนักเรียนนายร้อย จปร.ชั้นปีที่ 5 รวม 151 นาย ได้เดินทางกลับจากการฝึกผสม รหัส Lightning Forge 2020 ที่ค่ายทหารสกอร์ฟิลด์ มลรัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกา ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเครื่องเช่าเหมาลำ สายการบินไทย ในจำนวนนี้พบมีไข้ 10 นาย และอีก 1 นาย มีอาการบาดเจ็บนิ้วหักจากการฝึกต้องได้รับการผ่าตัด จึงส่งเข้าโรงพยาบาลพระมงกุฎในคราวเดียวเพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 อย่างละเอียด

พล.อ.ณฐพนธ์กล่าวว่า ทหารทั้งหมดที่เข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ได้ถูกแยกตัวออกจากผู้ป่วยทั่วไป จึงขอให้ประชาชนสบายใจได้ ทั้งนี้ ทหารทั้ง 11 คน ได้รับการตรวจหาเชื้อแล้วและคาดจะทราบผลวันนี้ โดยโรงพยาบาลจะรายงานผลส่งตรงไปยัง ศบค.ทันที หากพบว่ามีทหารติดเชื้อโควิด-19 ไม่มีปิดบังข้อมูลเว้นแต่รายชื่อของผู้ที่ป่วยเท่านั้นที่ไม่เปิดเผย ส่วนผู้ผ่านการตรวจคัดกรองคณะนายทหารจากกองทัพบก และกรมแพทย์ทหารบก ได้พาไปกักตัวที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ จอมเทียน จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ควบคุมแห่งรัฐ โดยยืนยันว่าไม่มีการแวะพักที่ใดและปฏิบัติตามมาตรการของ ศบค.และกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่กักกันโรคของรัฐ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ จอมเทียน พัทยา ที่ใช้กักกันทหารไทยที่กลับจากฮาวาย มีการจัดสถานที่รองรับไว้บริเวณอาคาร Garden Wing จำนวน 151 ห้อง โดยมี พล.ต.ยุทธชัย เฑียรทอง ผบ.มทบ.14 ในฐานะเจ้าของพื้นที่รับผิดชอบ นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจาก มทบ.14 และกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ เข้าร่วมกับคณะแพทย์และเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี สนับสนุนงานด้านรักษาความปลอดภัยและการรักษาพยาบาล ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ ศบค.ประจำ ณ พื้นที่กักกันโรค โดยขณะนี้มีทหาร 140 นาย ได้เข้ากักตัว แล้ว

พ.อ.ชัยอนันต์ สงวนพงษ์ ผอ.รพ.ค่ายนวมินทราชินี จ.ชลบุรี กล่าวว่า สำหรับพื้นที่รองรับทางเจ้าหน้าที่ได้จัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี โดยจะเปิดห้องพักให้ทหารที่กลับจากฮาวายเข้าพักห้องละ 1 นาย โดยจะไม่อนุญาตให้ออกจากห้องพักตลอด 24 ชั่วโมงทั้ง 14 วันของการกักตัว โดยมีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการทางการแพทย์ไว้คอยดูแลและเฝ้าระวังอาการ ทั้งนี้ หลังจากที่กลุ่มทหารเหล่านี้เดินทางมาถึงก็จะทำตรวจวัดโรค พร้อมอบรมที่จะให้ทำการตรวจวัดไข้ด้วยตัวเอง 3 ครั้งต่อวัน พร้อมโหลดแอพพลิเคชั่นไลน์เพื่อรายงานอาการมายังเจ้าหน้าที่ซึ่งจะสรุปผลทุกเช้า นอกจากนี้ ยังจัดกำลังตรวจกล้องวงจรปิดเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้กักตัวออกจากห้องพักโดยเด็ดขาด แต่หากพบมีอาการก็จะนำตัวส่งไปรักษายัง รพ.สิริกิติ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ทันที จึงมั่นใจได้ว่าการกักตัวมีความเข้มข้นและปลอดภัยแน่นอน

ขณะที่ พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า มีทหารไทยที่กลับจากการฝึกอบรมที่เกาะฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยเครื่องลงที่สนามบินสุวรรณภูมิทั้งหมด 151 นาย ทั้งหมดผ่านการตรวจคัดกรองโรค มี 140 นาย ไม่เข้าเกณฑ์เฝ้าระวังโรค (พียูไอ) หรือมีอาการไข้ ไอ มีเสมหะ แต่ได้ส่งเข้าสถานกักกันโรคที่ จ.ชลบุรี ทั้งหมด แต่มี 10 นาย เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง ได้ส่งรักษาตัวที่ รพ.พระมงกุฎเกล้า และรอผลการตรวจโรคอย่างละเอียด มีเพียง 1 ราย ที่เป็นโรคประจำตัวแต่ไม่ใช่โควิด-19 เข้ารับการรักษาเช่นกัน ฝากประชาชนว่าขณะนี้ไม่ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดในไทยจะเป็นอย่างไร แม้มีมาตรการผ่อนปรนแล้วก็ยังขอความร่วมมือให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด ขอให้สวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ และหลีกเลี่ยงคนหมู่มาก

ด้าน ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า แม้ผลการทดลองที่ปรากฏให้เห็นหลายที่จะบ่งชี้ว่านักวิจัยจากหลายประเทศมีความก้าวหน้า ในการพัฒนาวัคซีนต่อต้านโควิด-19 แต่การพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ที่จะสามารถใช้งานได้จริงครั้งแรกไม่น่าจะเกิดขึ้นก่อนต้นปี 2564

ข่าวที่เกี่ยวข้อง