เครื่องบินรบ-เฮลิคอปเตอร์กองทัพสหรัฐฯ ตกในทะเลจีนใต้ 2 ครั้ง เคราะห์ดีนักบินปลอดภัย

กองเรือแปซิฟิกของกองทัพเรือสหรัฐฯ (U.S. Pacific Fleet) เปิดเผยว่าพบ เครื่องบินรบและเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ประสบอุบัติเหตุตก 2 ครั้ง บริเวณทะเลจีนใต้ เมื่อวานนี้ (26 ตุลาคม) ขณะที่กำลังลาดตระเวนเหนือน่านน้ำของทะเลจีนใต้ตามภารกิจประจำวัน

U.S. Pacific Fleet เผยว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์โดยเหตุแรกคือเฮลิคอปเตอร์ที่บินขึ้นมาจากเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส นิมิตซ์ (USS Nimitz) เพื่อเตรียมภารกิจลาดตระเวนตกลงในทะเลบริเวณทะเลจีนใต้ และอีก 30 นาทีต่อมา เครื่องบินรบ F/A-18F Super Hornet จะเกิดอุบัติเหตุตกอีกลำขณะปฏิบัติออกภารกิจประจำวันเช่นเดียวกัน

เบื้องต้นยังคงไม่ทราบสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุกับเครื่องบินทั้งสองลำและกำลังมีการสอบสวนอยู่ในขณะนี้ โดยเฮลิปคอปเตอร์ที่เกิดเหตุเป็นเฮลิปคอปเตอร์รุ่น MH-60R Sea Hawk บรรทุกผู้โดยสาร 3 คน ขณะที่เครื่องบินรบเป็นรุ่น F/A-18F Super Hornet บรรทุกผู้โดยสาร 2 คนซึ่งผู้โดยสารทั้งหมดจากเครื่องบินทั้งสองลำปลอดภัยดี เนื่องจากสามารถดีดตัวออกจากเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์ได้ทัน

สำนักข่าว CNA รายงานว่า ย้อนกลับไปเมื่อปลายปีที่แล้ว สหรัฐฯ เพิ่งสูญเสียเครื่องบินรบ F/A-18F Super Hornet นี้ไป 3 ลำจากเหตุที่เกิดขึ้นแตกต่างกัน โดย 1 ลำ ประสบเหตุหลังถูก เรือลาดตระเวนบรรทุกขีปนาวุธนําวิถี USS Gettysburg บังเอิญยิงไปโดนด้วยความผิดพลาดหลังจากเพิ่งขึ้นบินมาจากเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Truman ขณะที่อีกลำหนึ่งลื่นไถลตกจากดาดฟ้าโรงเก็บเครื่องบินของเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Truman ลงสู่ทะเลแดง ส่วนอีก 1 ลำ ประสบเหตุขณะกำลังลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบินที่ทะเลแดง แต่เกิดตกจากเรือหลังจากไม่สามารถเกี่ยวเข้ากับสายเคเบิลเหล็กที่ใช้หยุดเครื่องบินขณะลงจอดได้ ซึ่งเครื่องบินรบรุ่นดังกล่าวของกองทัพเรือสหรัฐฯ มีมูลค่าสูงมากกว่า 60 ล้านดอลลาร์ หรือ คิดเป็นเงินไทยเกือบ 2 พันล้านบาท