อิสราเอลปิดด่านราฟาห์ ตอบโต้ฮามาสคืนร่างตัวประกันล่าช้า

หลังจากการทำข้อตกลงสันติภาพ ระหว่างกลุ่มฮามาสกับอิสราเอล เพื่อยุติสงครามในกาซา ความเคลื่อนไหวล่าสุด อิสราเอลยังคงไม่เปิดจุดผ่านแดนราฟาห์ ที่อยู่ระหว่างฉนวนกาซาและอียิปต์ และจะลดปริมาณความช่วยเหลือที่ส่งเข้าไปในพื้นที่ด้วย โดยสื่ออิสราเอลและรอยเตอร์ รายงานว่า การตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ฮามาสส่งคืนร่างของตัวประกันชาวอิสราเอลเพียง 4 ราย จากทั้งหมด 28 รายเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ขณะเดียวกัน หัวหน้าฝ่ายมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติได้เตือนอิสราเอลว่า จำเป็นต้องเปิดจุดผ่านแดนเข้าสู่ฉนวนกาซา เพื่อให้สามารถส่งมอบความช่วยเหลือที่ "จำเป็นอย่างยิ่ง" แก่ประชาชนในพื้นที่ได้

ขณะที่ ครอบครัวของตัวประกันชาวอิสราเอลที่เสียชีวิต เรียกร้องให้มีการส่งคืนร่างของคนที่พวกเขารัก โดยพวกเขาได้ได้ส่งจดหมายถึง วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษของสหรัฐฯ โดยระบุว่า สิ่งที่เรากลัวกำลังเกิดขึ้นต่อหน้าต่อตา เราจะไม่มีวันสงบใจได้ จนกว่าตัวประกันทุกคนจะถูกส่งตัวกลับคืนมา เราขอเรียกร้องให้ทำทุกวิถีทางในการกดดันให้ฮามาสปฏิบัติตามข้อตกลง และส่งตัวประกันที่เหลือทั้งหมดกลับบ้าน

แต่จนถึงขณะนี้ ฮามาสได้ส่งมอบเพียงร่างตัวประกันเพียง 4 รายเท่านั้น โดยยังคงมีร่างผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 23 รายที่ยังไม่ได้รับการส่งคืน และอีก 1 รายที่ยังไม่ทราบชะตากรรม ยังคงอยู่ในฉนวนกาซา

ล่าสุดกลุ่มฮามาสได้แจ้งต่อคนกลางว่า จะเริ่มส่งมอบร่างตัวประกันเพิ่มอีก 4 รายให้แก่อิสราเอล ตั้งแต่เวลา 02.00 น. ของเช้าวันพุธตามเวลาในไทย ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการ ซึ่งให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ  แถลงย้ำว่า กลุ่มฮามาสต้องปลดอาวุธ ไม่เช่นนั้น พวกเขาจะต้องถูกปลดอาวุธ แต่หากพวกเขาไม่ยอมวางอาวุธ เราจะปลดอาวุธพวกเขาเอง และมันจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และอาจรุนแรง

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ประกาศต่อรัฐสภาอิสราเอลว่า นี่คือ “รุ่งอรุณแห่งประวัติศาสตร์ของตะวันออกกลางยุคใหม่” ในขณะที่อิสราเอลและฮามาสได้ดำเนินการแลกเปลี่ยนตัวประกันชาวอิสราเอล 20 คนสุดท้ายที่ยังมีชีวิตอยู่ในฉนวนกาซา กับผู้ต้องขังและนักโทษชาวปาเลสไตน์เกือบ 2,000 คน