16 รัฐยื่นฟ้องรัฐบาล “ทรัมป์” ระงับหนุน EV

16 มลรัฐ และเขตปกครองพิเศษวอชิงตัน ดี.ซี. (District of Columbia) ยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งระงับ 2 โครงการสนับสนุนเงินช่วยเหลือด้านโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV)

“ร็อบ บอนตา” อัยการรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่า กระทรวงคมนาคมไม่อนุมัติเงินทุนใหม่สำหรับโครงการสถานีชาร์จรถ EV ทั้ง 2 โครงการของสภาคองเกรส ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายโครงสร้างพื้นฐาน มูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2565 

ขณะที่เมื่อเดือนมิถุนายน ผู้พิพากษาระงับคำสั่งของรัฐบาลทรัมป์ที่ถอนการสนับสนุนทางการเงินสำหรับ 14 รัฐ รวมถึงแคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก อิลลินอยส์ และวอชิงตัน จากอีกโครงการหนึ่งที่สนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จรถ EV มูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งได้รับการอนุมัติในปี 2565

อัยการ “บอนตา” ระบุว่า นี่เป็นความพยายามอีกครั้งหนึ่งของรัฐบาลที่จะขัดขวางการต่อสู้กับมลพิษทางอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงชะลอนวัตกรรม การสร้างงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และทำให้ชุมชนไม่สามารถเข้าถึงการเดินทางที่ไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมและราคาไม่แพง

ในคำฟ้องที่นำโดยรัฐแคลิฟอร์เนีย วอชิงตัน และโคโลราโด ระบุว่า หนึ่งในโครงการดังกล่าวจัดสรรเงินทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์ให้แก่รัฐและเมืองต่าง ๆ สำหรับโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จรถ EV และสถานีเติมเชื้อเพลิงไฮโดรเจน การกระทำของประธานาธิบดีทรัมป์ทำให้เงินสนับสนุนจากรัฐบาลกลางจำนวน 1.8 พันล้านดอลลาร์ไปยังรัฐบาลระดับรัฐและท้องถิ่นหลายสิบแห่งตกอยู่ในความเสี่ยง และทำให้เงินทุนส่วนใหญ่ไม่สามารถใช้ได้

ทั้งนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์พุ่งเป้าสกัดนโยบายเกี่ยวกับรถ EV ในหลายด้าน เมื่อเดือนมิถุนายน เขาลงนามไม่เห็นด้วยกับกฎหมายตรวจสอบและยับยั้งกฎระเบียบใหม่ๆ ที่เรียกว่า Congressional Review Act เพื่อระงับแผนของรัฐแคลิฟอร์เนียที่จะยุติการขายรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเบนซินเพียงอย่างเดียวภายในปี 2578 และกฎระเบียบเกี่ยวกับรถยนต์อีก 2 ข้อ

นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้ลงนามในกฎหมายยุติการลดหย่อนภาษีรถ EV 7,500 ดอลลาร์ รวมถึงเสนอให้ผ่อนคลายกฎเกณฑ์มาตรฐานการประหยัดเชื้อเพลิงที่อดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ริเริ่มไว้เมื่อปีที่แล้ว เพื่อให้ผู้ผลิตขายรถยนต์น้ำมันเบนซินได้ง่ายขึ้น