"ส่งออก"ไทย ส.ค. 68 โตต่ำสุดรอบ 11 เดือน

นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.)  โฆษกกระทรวงพาณิชย์ แถลงการส่งออกของไทยในเดือนสิงหาคม 2568 มีมูลค่า 27,743.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (889,014 ล้านบาท) ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 14 ที่ร้อยละ 5.8 จากช่วงเดียวกันปีก่อน เป็นอัตราการเติบโตต่ำที่สุดในรอบ 11 เดือน หรือนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2567 ที่ขยายตัวร้อยละ 1.3

ทั้งนี้ การส่งออกขยายตัวในอัตราชะลอลงมากขึ้น หลังจากมีการบังคับใช้อัตราภาษีศุลกากรต่างตอบแทนของสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม  2568  เนื่องจากผู้นำเข้าส่วนใหญ่มีความชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับการวางแผนจัดการความเสี่ยงด้านราคา ประกอบกับการเร่งนำเข้าของผู้นำเข้าก่อนหน้านี้เพื่อลดผลกระทบของภาษีทรัมป์ ทำให้ผู้นำเข้าเริ่มชะลอการนำเข้า โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ที่ไทยส่งออกไปในเดือนสิงหาคมนี้อยู่ที่ร้อยละ 12.8 ชะลอลงจากร้อยละ 31.4 ในเดือนกรกฎาคม 2568  

โฆษกกระทรวงพาณิชย์คาดว่า ตั้งแต่เดือนกันยายน 2568 เป็นต้นไปจะเริ่มเห็นผลกระทบของภาษีตอบโต้ของสหรัฐฯชัดเจนขึ้น ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้การส่งออกของไทยมีแนวโน้มเติบโตชะลอลงอีก โดยคาดว่าช่วง 4 เดือนที่เหลือของปีนี้การส่งออกจะมีมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนอยู่ที่ 24,000-24,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และการส่งออกทั้งปีนี้จะเติบโตได้สูงกว่าเป้าหมายที่คาดไว้ร้อยละ 2-3 เนื่องจากการส่งออก 8 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวสูงที่ร้อยละ 13.3 ทำให้ภาพรวมส่งออกทั้งปีนี้ยังเติบโตได้ดี 

ทั้งนี้การส่งออกเดือนสิงหาคม 2568 ที่ขยายตัวร้อยละ 5.8 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัว ที่ร้อยละ 5.4   และการส่งออก 8 เดือนแรกของปี 2568 ขยายตัวที่ร้อยละ 13.3 หากหักสินค้าเกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน ทองคำ และยุทธปัจจัย ขยายตัวที่ร้อยละ 13.3

โฆษกกระทรวงพาณิชย์ระบุว่า การส่งออกทองคำในเดือนสิงหาคม 2568 มีมูลค่า 1,111 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 144   โดยสวิสเซอร์แลนด์เป็นตลาดส่งออกอันดับหนึ่งของไทย  และอันดับสองคือ กัมพูชา  ตามด้วย สปป.ลาว  ขณะที่ 8 เดือนแรกของปี 2568 ไทยส่งออกทองคำมีมูลค่า 8,733.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น ร้อยละ 87.7