ยะลา! ฝนตกหนักดินโคลนถล่มทับบ้านดับ 1-เตือนที่ลุ่มระวังน้ำป่าไหลหลาก

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 03.00 น.วันที่ 19 ธ.ค.63 เกิดเหตุดินถล่มทับบ้านของประชาชนบริเวณ กลุ่มหมู่บ้าน กม.23 บ้านที่เกิดเหตุเลขที่ 119 ม.1 ต.อัยเยอร์เวง อ.เบตง จ.ยะลา เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงพบบ้านหลังดังกล่าวถูกดินถล่มทับ และได้คำยืนยันจากลูกชายว่ามีแม่ติดอยู่ภายในบ้านเจ้าหน้าที่จึงเร่งค้นหา จนพบผู้เสียชีวิต 1 ราย คือ นางบีเดาะ  ฮาบิน อายุ 76 ปี เสียชีวิตบริเวณภายในห้องนอนในบ้านดังกล่าว จึงให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างเบตง นำร่างของผู้เสียชีวิตออกจากที่เกิดเหตุ นำส่ง รพ.เบตง เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

นายธงชัย ฮาบิน  อายุ 51 ปี บุตรชายผู้เสียชีวิตเล่าว่าก่อนเกิดเหตุได้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค.จนมาถึงช่วงกลางดึกของวันที่ 19 ธ.ค.ตนเองและแม่ผู้เสียชีวิตได้เข้านอนตั้งแต่ช่วงหัวค่ำจนกระทั้งประมาณ 02.00 น.ได้ยินเสียงดังโครมต่อมาก็มีดินโคลนไหลลงมาจากเขาทับบ้านตน ซึ่งตนได้นอนคนละฝั่งกับแม่ในห้องนอนขณะเกิดเหตุตนเองเห็นแม่ถูกดินทับอยู่ซึ่งตนเองได้พยายามที่จะเข้าไปช่วยแม่แต่ตนเองก็ถูกดินโคลนทับอยู่ไม่สามารถที่ขยับตัวได้หลังจากที่พยามช่วยเหลือตนเองได้ หลังจากนั้นจึงได้เร่งขุดแต่มีตอไม้หลุมพอขนาดใหญ่ทับร่างแม่อยู่อีกทั้งมีดินที่ไหลลงมาทับมีจำนวนมากจึงไม่สามารถเข้าไปในห้องนอนที่มีดินทับร่างแม่อยู่ได้จึงประสานไปยังตำรวจ สภ.อัยเยอร์เวง ที่อยู่ใกล้สุด จนชุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าช่วยเหลือจนสามารถค้นหาร่าง นางบีเดาะ  ฮาบิน ที่ถูกดินถล่มทับบ้านจนพบ

ล่าสุด พ.ต.อ.วงศกร เหมือนเขียว ผกก.สภ.อัยเยอร์เวง  เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว แต่การทำงานเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีดินโคลนไหลมากับน้ำจำนวนมาก อีกทั้งมีตอไม้ขนาดใหญ่ ไหลปนมากับดินโคล่น ส่วนชาวบ้าน ที่ถูกดินถล่มทับบ้านเสียหาย เจ้าหน้าที่ได้จัดหาที่พักชั่วคราวและช่วยเหลือเบื้องต้นทั้งอาหาร น้ำดื่มและเครื่องนุ่งห่ม เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมแจ้งเตือนผู้สัญจรบนถนนสายยะลา-เบตง ให้ระมัดระวังอันตราย เนื่องจากฝนที่ตกหนักทำให้ดินถล่มทับเส้นทางหลายจุด อาจเกิดอุบัติเหตุได้

ด้านนายสุริยา บุญพันธ์ ปลัดอาวุโสรักษาราชการแทนนายอำเภอเบตง ระบุว่า ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งค้นหาผู้สูญหาย และช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์น้ำและฝนตกหนักในพื้นที่อย่างใกล้ชิด หากประเมินแล้วว่าพื้นที่ไหนวิกฤตก็ให้อพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่ปลอดภัยทันที