รีเซต

จับตา 4 ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน

จับตา 4 ความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงิน
TNN ช่อง16
24 ธันวาคม 2568 ( 18:01 )
6

ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยแพร่รายงานการติดตามเสถียรภาพระบบการเงินไทย 2568  โดยบทสรุปผู้บริหารระบุว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 ระบบการเงินไทยในภาพรวมมีเสถียรภาพ สามารถสนับสนุนกิจกรรมในภาคเศรษฐกิจจริง  และโดยรวมยังมีฐานะการเงินที่ดี แม้มีคุณภาพหนี้ด้อยลง (หรือ NPL เพิ่มขึ้น) 

นอกจากนี้ ระดับหนี้ของภาคครัวเรือนต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (gross domestic product: GDP) ทยอยปรับลดลงต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อเสถียรภาพระบบการเงินในระยะยาว แต่ภาคเศรษฐกิจและการเงินไทยยังต้องเผชิญกับความไม่แน่นอนที่ยังมีต่อเนื่องจากปัจจัยทั้งภายในและนอกประเทศ ประกอบกับปัญหาเชิงโครงสร้างและหนี้ครัวเรือนที่แม้จะลดลงต่อเนื่องแต่ยังอยู่ในระดับสูง จึงยังต้องติดตามความเสี่ยงที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพระบบการเงินในระยะถัดไปใน 4 ด้าน 

(1) ภาวะการเงินที่ตึงตัวต่อเนื่องอาจส่งผลกระทบเพิ่มเติมต่อสภาพคล่องของธุรกิจและครัวเรือนรวมถึงกิจกรรมทางเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า สะท้อนจากการหดตัวของสินเชื่อและยอดคงค้างตราสารหนี้ภาคเอกชน ทั้งจากความต้องการสินเชื่อที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังมีความไม่แน่นอนและความระมัดระวังในการให้สินเชื่อของสถาบันการเงินตามความเสี่ยงด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs ที่มีรายได้ลดลงและยังเผชิญกับปัญหาเชิงโครงสร้างด้านความสามารถในการแข่งขัน



(2) ความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีความอ่อนไหวต่อปัจจัยภายในและภายนอกประเทศท่ามกลางความไม่แน่นอนที่ยังมีต่อเนื่อง โดยหากความเชื่อมั่ถดถอยลงอาจกระทบต่อความสามารถในการระดมทุนของภาคธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูงเพิ่มเติม โดยเฉพาะหุ้นกู้อัตราผลตอบแทนสูง (high yield) ที่จะครบกำหนดในระยะข้างหน้า 

(3) บริษัทขนาดใหญ่ที่มีระดับหนี้สูง (highly leveraged large corporations: HLLCs) บางรายมีความเปราะบางมากขึ้น  จึงต้องติดตามความสามารถในการชำระหนี้และการระดมทุนของ HLLCs กลุ่มดังกล่าวแก่เจ้าหนี้ที่มีทั้งสถาบันการเงินและผู้ลงทุนในตราสารหนี้ ซึ่งหากประสบปัญหาอาจมีผลกระทบต่อเนื่องไปยังความเชื่อมั่นของนักลงทุน


และ (4) ฐานะการเงินของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ (developer) บางรายที่เปราะบางภายใต้ภาวะที่ภาคอสังหาริมทรัพย์ยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง สะท้อนจากยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง รวมถึงการเปิดโครงการใหม่มีแนวโน้มลดลง ขณะที่อุปทานคงค้างยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งจากภาวะดังกล่าวทำให้ฐานะการเงินของผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์บางรายเปราะบางและมีความเสี่ยงในการต่ออายุหุ้นกู้ (rollover risk) มากขึ้น

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง