ปลัดแม่ริมเดินหน้าแจ้งความ "ฌอน" กับพวก 3 ข้อหา เรี่ยไร-ฉ้อโกง-คอมฯ

“ปลัดแม่ริม” เดินหน้าแจ้งความ “ฌอน” กับพวก 3 ข้อหา “เรี่ยไร-ฉ้อโกง-คอมฯ” ฐานเปิดรับบริจาคช่วยดับไฟป่าดอยสุเทพ รวม 6,074 ราย ได้กว่า1.5 ล้าน แต่ถอน-โอนเข้าบัญชีส่วนตัว 1.46 ล้าน ชี้เงินเป็นของประชาชนแต่ใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ ลั่นไม่มีใครกล้ารับเงินคืน ต้องเข้ากระบวนการยุติธรรมพิจารณาก่อน

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 กันยายน 2563 ที่ สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นายบุญญฤทธิ์ นิปวณิชย์ ปลัดอำเภอแม่ริม ในฐานะฝ่ายอำนวยการ ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ท.ขจร เรือนคำ พนักงานสอบสวน สภ.แม่ริม เพื่อดำเนินคดีกับนายฌอน บูรหะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง พร้อมกับพวก คือ บริษัทต๊อก ลิดเดอร์ส จำกัด รวม 2 ราย ฐานความผิด 3 ข้อหา คือ เรี่ยไรเงินบริจาคโดยไม่ได้รับอนุญาต
ยักยอกหรือฉ้อโกงประชาชน และคอมพิวเตอร์ นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำให้เกิดความเสียหาย กรณีนายฌอน เปิดรับบริจาคเพื่อช่วยเหลือจิตอาสาดับไฟป่าดอยสุเทพ ตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม – 6 พฤษภาคม 2563 โดยเปิดบัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขารวมโชค อ.เมืองเชียงใหม่ เลขที่บัญชี 0298532158 เพื่อโอนเงินเข้าบัญชีดังกล่าวเป็นเงิน 1,475,274.79 บาท โดย พ.ต.ท.ขจร ได้สอบปากคำนายบุญญฤทธิ์ เพื่อบันทึกปากคำ โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง

นายบุญญฤทธฺ์ กล่าวว่า ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีนายฌอน เนื่องจากมีผู้เสียหายร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ริม ซึ่งเป็นพยานคดีดังกล่าว 2 ราย พบว่านายฌอน ได้กระทำความผิดตามกฎหมายซึ่งมีผู้โอนเงินบริจาค รวม 6,074 ราย เป็นเงิน 1,475,274.79 บาทซึ่งบางส่วนเป็นผู้เสียหายในเชียงใหม่ ที่บริจาคเงินให้กับจิตอาสาดับไฟป่า 4 อำเภอ คือ อ.เมือง อ.แม่ริม อ.หางดง อ.แม่แตง ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย และเขตป่าสงวนแห่งชาติ แต่นำไปใช้จ่ายผิดวัตถุประสงค์ผู้บริจาคดังกล่าว

“การเข้าแจ้งความดำเนินคดีดังกล่าว เนื่องจากได้ให้โอกาสนายฌอนเข้ามาชี้แจงนานแล้ว แต่ไม่มาชี้แจงอย่างใด ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายเข้าแจ้งความดำเนินคดี ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ ปอท.อีกด้วยส่วนกรณีนายฌอน ขอคืนเงินดังกล่าวให้ทางจังหวัดนั้น ไม่ทราบ แต่เชื่อว่าไม่มีใครกล้ารับเงินดังกล่าวคืน เพราะต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมก่อน เพราะเงินดังกล่าวเป็นเงินประชาชน ที่สนับสนุนเจ้าหน้าที่ดับไฟป่า ซึ่งเงินดังกล่าวยังอยู่ในมือของนายฌอน ถือเป็นเงินที่ผิดกฎหมายอยู่ ดังนั้นต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายก่อน” นายบุญญฤทธิ์ กล่าว

นายบุญญฤทธฺ์ กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบบัญชีดังกล่าว พบว่ามีการโอนออก 3 ครั้ง คือ นายฌอน จ่ายบัตรเครดิต จำนวน 260,000 บาท โอนเข้าบัญชีส่วนตัว 1 ล้านบาท และโอนเข้าบริษัทฯ เพื่อทำสื่อประชาสัมพันธ์ อีก 200,000 บาท รวมเงินกว่า 1,460,000 บาทซึ่งต้องติดตามเงินบริจาตดังกล่าวจนถึงที่สุด หลังจากนี้เป็นหน้าที่พน้กงานสอบสวนต้องรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และออกหมายเรียกให้นายฌอน มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำ ซึ่งได้ประสาน พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ เพื่อให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดี เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่นทำตามด้วย

ด้าน พ.ต.ท.ขจร กล่าวสั้น ๆ ว่า เบื้องต้นได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบแล้ว และสั่งให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ส่วนรายละเอียดไม่ขอเปิดเผย