สรุปดรามา “งานวิ่งทิพย์” ลอยแพนักวิ่งกลางสวนหลวง ร.9 ผู้จัดอ้างเจอออแกไนท์ลอยแพ

วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ที่ควรจะเป็นวันแห่งความสุขสำหรับนักวิ่งนับพันกลับกลายเป็นความผิดหวัง เมื่อกิจกรรมวิ่งที่จัดขึ้น ณ สวนหลวง ร.9 กลายเป็นเหตุการณ์ที่ผู้คนต่างขนานนามว่า "งานวิ่งทิพย์" หลังไม่มีการจัดงานใด ๆ ตามที่ประกาศไว้ ทั้งที่มีการเก็บค่าสมัครล่วงหน้าและโปรโมตอย่างเป็นทางการผ่านเว็บไซต์

จุดเริ่มต้นของความวุ่นวาย

กิจกรรมวิ่งดังกล่าว เปิดรับสมัครผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีนักวิ่งจำนวนมากให้ความสนใจและลงทะเบียนเข้าร่วม ด้วยภาพลักษณ์งานวิ่งเชิงสุขภาพที่น่าเชื่อถือ และสถานที่จัดงานที่คุ้นเคยอย่างสวนหลวง ร.9 ซึ่งเคยใช้เป็นสถานที่จัดงานวิ่งมาแล้วหลายครั้ง

แต่ในเช้าวันที่ 25 พฤษภาคม ที่ควรเป็นวันวิ่ง กลับไม่มีเจ้าหน้าที่ ไม่มีการเตรียมงาน และไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นักวิ่งนับพันคนเริ่มตั้งคำถามและรวมตัวกันรอคำอธิบาย

หญิงสาวปริศนาปรากฏตัวพร้อมคำขอโทษ

ความสับสนทวีคูณเมื่อหญิงสาวคนหนึ่งสวมเสื้อทีมงานปรากฏตัวพร้อมโทรโข่ง เธอแจ้งกับนักวิ่งว่า "ไม่ทราบว่าเพื่อนร่วมทีมงานได้ถอนตัวกันไปแล้ว เพราะไม่ได้อ่านข้อความในไลน์กลุ่ม"

เมื่อผู้ร่วมกิจกรรมเรียกร้องเงินค่าสมัครคืน หญิงสาวคนดังกล่าวอ้างว่ามีเงินติดตัวเพียง 1,300 บาท และสามารถคืนให้คนละ 10 บาทได้ในเบื้องต้น ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์และความไม่พอใจอย่างรุนแรงในหมู่นักวิ่ง

เรื่องไปตำรวจ นักวิ่งไม่ยอมรวมตัวกันแจ้งความ

หลังเกิดเหตุ นักวิ่งจำนวนมากเดินทางไปแจ้งความที่ สน.ประเวศ เพื่อเอาผิดกับผู้จัดงาน โดยมีจำนวนผู้เสียหายเกือบ 2,000 คน บางคนระบุว่าจ่ายค่าสมัครหลายร้อยถึงหลักพันบาท ทั้งนี้ ตำรวจได้สอบปากคำผู้จัดงาน 2 คน เป็นเวลานานกว่า 8 ชั่วโมง โดยผู้จัดยอมรับว่าเป็นการจัดงานวิ่งครั้งแรก และอ้างว่าถูกออร์แกไนซ์ยกเลิกกะทันหัน พร้อมยืนยันว่ากำลังหาทางเยียวยาผู้เสียหาย

งานวิ่งทิพย์ กลายเป็นกระแสในโลกโซเชียล

เหตุการณ์นี้กลายเป็นกระแสบนโซเชียลมีเดียทันทีมีการติดแฮชแท็ก #งานวิ่งทิพย์  และ มีการแชร์ภาพบรรยากาศสวนหลวง ร.9 ที่ดราคร่ำไปด้วยนักวิ่งที่ผิดหวัง และคลิปเสียงของหญิงสาวทีมงานที่ประกาศผ่านโทรโข่งอย่างไม่รู้จะจัดการกับเหตุการณ์นี้อย่างไร 

อีกทั้งยังสะท้อนถึงปัญหาความโปร่งใสและการตรวจสอบมาตรฐานของผู้จัดกิจกรรมกีฬาในไทย โดยเฉพาะเมื่อมีการเก็บเงินล่วงหน้า ผู้ร่วมกิจกรรมควรตรวจสอบข้อมูลพื้นฐานของผู้จัดงาน เช่น ประวัติการจัดงานครั้งก่อน ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ ช่องทางติดต่อ และชื่อหน่วยงานหรือบริษัทที่รับผิดชอบ

ในขณะเดียวกัน หน่วยงานภาครัฐ เช่น การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กทม. อาจต้องพิจารณาการออกใบอนุญาตจัดกิจกรรมสาธารณะให้เข้มงวดขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก