ทรัมป์ชั่งใจเข้าร่วมโจมตีอิหร่าน "อาจจะทำหรือไม่ทำก็ได้"

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กำลังพิจารณาว่าจะเข้าร่วมกับอิสราเอลโจมตีสถานที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านหรือไม่ ขณะที่ ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและอิหร่านเข้าสู่วันที่ 6 และยังมีการปะทะคารมกันอย่างโกรธแค้นจากทุกฝ่าย 

ทรัมป์ กล่าวว่า "เขาอาจทำมัน หรือไม่ทำก็ได้" เมื่อถูกถามว่า สหรัฐฯจะเข้าร่วมอิสราเอลในการโจมตีอิหร่านหรือไม่ แจ่ยืนยันว่าเขายังไม่ได้ตัดสินใจในขั้นสุดท้าย โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า ไม่มีใครรู้ว่าเขาต้องการทำอะไร แต่เขาบอกได้ว่า อิหร่านมีปัญหาหลายอย่างและต้องการเจรจา 

ทั้งนี้ ตามรายงานข่าวของสำนักข่าวซีบีเอส พันธมิตรของบีบีซีในสหรัฐฯ ซึ่งอ้างแหล่งข่าว 5 ราย ระบุว่า การโจมตีของอเมริกาอาจเกี่ยวข้องกับการใช้อาวุธที่เหนือกว่าเพื่อโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ใต้ดินที่เมืองฟอร์โด ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประชุมร่วมกับทีมความมั่นคงแห่งชาติของเขาในวันอังคารที่ผ่านมา เพื่อหารือขั้นตอนต่อไป 

แหล่งข่าวที่เกี่ยวข้องกับการหารือวงใน กล่าวว่า ทรัมป์และทีมงานของเขากำลังพิจารณาทางเลือกหลายประการ ซึ่งรวมทั้งการเข้าร่วมกับอิสราเอลในการโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่าน

อิสราเอลและอิหร่าน ต่างโจมตีตอบโต้กันอย่างดุเดือดตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่า ถ้อยแถลงของทรัมป์แสดงให้เห็นความตั้งใจที่จะเข้าร่วมกับอิสราเอล แม้ว่าก่อนหน้านี้ เขาจะเรียกร้องให้ลดความตึงเครียด และสนับสนุนให้แก้ปัญหาทางการทูตเพื่อจำกัดการวิจัยด้านนิวเคลียร์ของอิหร่าน 

อย่างไรก็ตาม ทรัมป์แสดงความผิดหวังมากขึ้นเรื่อย ๆ จากการที่เห็นว่าไม่มีความคืบหน้าในการบรรลุข้อตกลงใหม่ที่จะมุ่งป้องกันอิหร่านไม่ให้สร้างอาวุธนิวเคลียร์ ทรัมป์ถอนตัวออกจากข้อตกลงก่อนหน้านี้กับอิหร่านในช่วงดำรงตำแหน่งสมัยแรกด้วย

ในการโพสต์ข้อความผ่านโซเชียล มีเดียเมื่อวันอังคาร ทรัมป์ขู่อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน และว่า สหรัฐฯรู้ว่าเขาซ่อนตัวอยู่ที่ไหน 

ทรัมป์เขียนว่า “เขาเป็นเป้าหมายที่ง่าย แต่อยู่ที่นั่นก็ปลอดภัย เราจะไม่กำจัดเขา (ฆ่า!) อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในตอนนี้ แต่เราไม่อยากให้มีการยิงขีปนาวุธใส่พลเรือนหรือทหารอเมริกัน ความอดทนของเราเริ่มหมดลงแล้ว” ส่วนอีกโพสต์หนึ่งจากทรัมป์ เขียนว่า “ให้ยอมแพ้อย่างไร้เงื่อนไข”

ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยืนยันว่า อิหร่านจะต้องยกเลิกการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ แม้ว่าอิหร่านจะยืนกรานว่ากิจกรรมนิวเคลียร์ของตนเป็นไปโดยสันติโดยสิ้นเชิงก็ตาม

ทรัมป์ถอนตัวออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับก่อนหน้าระหว่างอิหร่านและ 5 ประเทศมหาอำนาจโลก ในปี 2561 และหลังจากที่ทรัมป์กลับเข้าดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯสมัยที่ 2 เขาได้ส่งคณะผู้แทนเจรจาไปเจรจาเพื่อพยายามที่จะบรรลุข้อตกลงฉบับใหม่กับอิหร่าน แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใด ๆ