รีเซต

Microsoft ยุติการพัฒนา Internet Explorer อย่างเป็นทางการ หลังใช้งานมานานถึง 26 ปี !!

Microsoft ยุติการพัฒนา Internet Explorer อย่างเป็นทางการ หลังใช้งานมานานถึง 26 ปี !!
TNN ช่อง16
21 พฤษภาคม 2564 ( 00:40 )
233

หากใครใช้งานคอมพิวเตอร์ในระบบปฏิบัติการ Windows มาตั้งแต่แรก ๆ จะทราบดีว่าเว็บเบราว์เซอร์ที่ใช้ในการท่องอินเทอร์เน็ตหลักคือ Internet Explorer (IE) ซึ่งครองตำแหน่งเบราว์เซอร์ที่ยอดนิยมมานานหลายปี จนกระทั่งการมาถึงของ Google Chrome ทำให้ผู้ใช้ลดน้อยลงเรื่อย ๆ


ประกอบกับการที่ Microsoft ผู้พัฒนา Windows 10 ได้สร้างเบราว์เซอร์ตัวใหม่ขึ้นชื่อว่า Microsoft Edge เพื่อแก้ปัญหาการประมวลผลที่ล่าช้าของ IE และสามารถทำงานได้ดีกว่ามาก ในที่สุดจึงถึงเวลาที่ Microsoft ต้องบอกลาเพื่อนเก่าและยุติการพัฒนาไปในที่สุด


ในอดีต IE เคยสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับโลกอินเทอร์เน็ตมาก โดยเปิดตัวครั้งแรกในปี 1995 ร่วมกับระบบปฏิบัติการ Windows 95 การมาของ IE ทำให้เบราว์เซอร์ที่เกิดก่อนอย่าง Netscape Navigator ต้องยอมถอยออกจากตลาด และทำให้ IE ขึ้นแท่นเบาว์เซอร์ที่มีผู้ใช้ทั่วโลกมากถึง 95% ในปี 2002 


แต่ไม่นานหลังจาก Mozilla Firefox และ Google Chrome ถือกำเนิดขึ้น IE ไม่สามารถทำประสิทธิภาพได้ดีเท่ากับเบราว์เซอร์น้องใหม่ทั้ง 2 ตัว ส่งผลให้ยอดผู้ใช้ IE ก็ลดลงเรื่อย ๆ จนเหลือเพียง 5% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจากทั่วโลกในปัจจุบัน 


ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2020 Microsoft พยายามผลัดเปลี่ยนจาก IE สู่ Microsoft Edge เรื่อยมา ซึ่ง Microsoft เองบอกว่า IE ทำงานได้ช้ากว่า, มีปัญหาการรองรับกับเว็บไซต์ใหม่ ๆ และมีความปลอดภัยน้อยกว่าเบราว์เซอร์ตัวอื่น เป็นเหตุให้ต้องพัฒนา Microsoft Edge ขึ้นมาแทน


ถึงกระนั้น Microsoft ก็ยังเก็บ IE ไว้ใน Windows 10 เรื่อยมา เพื่อให้แน่ใจว่าการทำงานของโปรแกรมบางประเภทยังใช้งานได้ เช่น การทำดึงระบบคลาวด์ของ One Drive ให้กลายเป็นไดรฟ์ออฟไลน์ในคอม ซึ่งยังต้องอาศัยการตั้งค่าใน IE อยู่นั่นเอง


จนกระทั่ง Microsoft ได้ทำการปรับปรุง Microsoft Edge เบาว์เซอร์ตัวใหม่ ให้รองรับเว็บแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมารองรับกับ IE ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว ดังนั้น จึงสามารถใช้งานแทน IE ได้เลย และถึงเวลาที่ต้องวางมือจาก IE เสียที โดยคาดว่าในอนาคตการติดตั้ง Windows 10 จะนำ IE ออกจากโปรแกรมมาตรฐาน เหลือไว้เพียงแค่ Microsoft Edge เท่านั้น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก CNN

ยอดนิยมในตอนนี้

แท็กยอดนิยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง